มาร่วมตีแผ่กระแสที่แรงที่สุดในสังคม กับรายการโหนกระแสthaich3ช่อง 3 กด 33
ติดต่อเราfacebooktiktokxyoutube
honekrsaaehonekrsaae
thaich3ช่อง 3 กด 33honekrsaae
ข่าวกำลังโหน
โหนทุกข่าว
โหนบันเทิง
โหนไปมู
โหนร้องทุกข์
วีดีโอ
search
ปิด
honekrsaae
honekrsaae
มาร่วมตีแผ่กระแสที่แรงที่สุดในสังคม กับรายการโหนกระแส
thaich3ช่อง 3 กด 33
หน้าหลัก
ข่าวกำลังโหน
โหนทุกข่าว
โหนบันเทิง
โหนไปมู
โหนร้องทุกข์
วีดีโอ
Live
ติดต่อเราfacebooktiktokxyoutube

ฟังความสองฝ่าย หนุ่มสาวพิการสายตา จากคนเคยรัก วันนี้เป็นคู่กรณี ไล่ฝ่ายชายออกจากบ้าน


ข่าวด่วน
22 กรกฎาคม 25685,754
ฟังความสองฝ่าย หนุ่มสาวพิการสายตา จากคนเคยรัก วันนี้เป็นคู่กรณี ไล่ฝ่ายชายออกจากบ้าน

รายการ "โหนกระแส" วันที่ 22 กรกฎาคม 2568 พูดคุยกันเรื่อง คู่อดีตสามีภรรยา ที่ตอนนี้กลายเป็นคู่กรณี “คุณวันพระ” และ “คุณฟ้าใส” เดินทางมาเปิดใจถึงความสัมพันธ์ที่จบลงแบบไม่สวย หลังใช้ชีวิตคู่ร่วมกันมานานกว่า 6 ปี และมีลูกชายด้วยกัน 1 คน ก่อนจะหย่ากันเมื่อวันที่ 14 กรกฎาคมที่ผ่านมา ฝ่ายชายถูกไล่ออกจากบ้าน ทั้งที่ฝ่ายหญิงให้คำมั่นว่า หย่ากันแล้ว จะยังให้ร่วมอยู่เลี้ยงลูกด้วยกันในบ้านหลังเดิม แต่สุดท้ายพอยอมหย่า ก็โดยไล่ออกจากบ้านทันที

 

คุณวันพระ อายุ 30 ปี เป็นผู้พิการทางการมองเห็น เล่าว่าเริ่มสูญเสียการมองเห็นตั้งแต่อายุ 9 ขวบ เพราะเหตุฟ้าผ่าขณะเล่นฟุตบอล จากนั้นได้เข้าสู่วงการกีฬาคนพิการ และเป็นอดีตนักฟุตบอลทีมชาติผู้พิการทางสายตา เคยคว้าเหรียญทองในกีฬาอาเซียนพาราเกมส์ ปี 2557 และ 2560 ก่อนผันตัวมาร้องเพลงในวงดนตรีคนตาบอด

 

คุณวันพระเผยว่า คบหากับ คุณฟ้าใส อายุ 21 ปี ซึ่งเป็นผู้พิการทางสายตาเช่นกัน ผ่านโซเชียลมีเดีย และใช้ชีวิตร่วมกัน ช่วงที่คบหาเป็นแฟน เคยจับได้ว่าคุณฟ้าใสแอบคุยกับผู้ชายคนอื่นหลายคน จึงทะเลาะกันอย่างหนัก ทำให้ในช่วงหลังตนก็คิดเอาคืน ด้วยการไปมีสัมพันธ์กับผู้หญิงอีกคนในวงดนตรี เหมือนคิดว่า เธอนอกใจได้ ฉันก็นอกใจเธอได้เหมือนกัน ทำให้มีปัญหาระหองระแหงกันมาตลอด

 

ในรายการมีการถามทั้งวันพระและฟ้าใสว่า ทำไมถึงจับได้ ว่าอีกฝ่ายมีคนอื่น ทั้งสองคนบอกว่า เข้าไปดูแชต ดูไลน์ แล้วให้ระบบของมือถืออ่านให้ฟัง โดยมีการสาธิตทำให้ดู พบว่า ระบบ AI (ของ iPhone ก็คือ Siri) อ่านข้อความเร็วมาก จนคนปกติทั่วไปฟังไม่ทัน แต่วันพระกับฟ้าใสบอกว่า ฟังรู้เรื่องทั้งหมด ประสาทสัมผัสทางการได้ยินของผู้พิการทางสายตา จะดีกว่าคนทั่วไปมากๆ

 

เรื่องนี้ทำให้พี่หน่วงถึงกับอึ้ง และบอกว่า เปิดโลกสุดๆ ไม่รู้เรื่องนี้มาก่อนเลยว่า มือถืออ่านแบบนี้ และเร็วขนาดนี้ แต่ทั้งวันพระและฟ้าใสก็ยังฟังออกทั้งหมด

 

สิ่งที่ฟ้าใสโกรธวันพระ ก็คือตอนที่จับได้ว่าวันพระไปมีสัมพันธ์ทางกายกับหญิงอื่น แล้วบอกให้เลิก วันพระบอกว่าจะเลิกให้ แต่ขอกลับไปบอกเขาก่อน ว่าจะเลิกแล้ว จะขอกลับมาอยู่กับครอบครัว แต่ถ้าเกิดอะไรขึ้นตอนไปลา ก็ต้องเลยตามเลยนะ (หมายถึงจะมีสัมพันธ์กันสั่งลา)  ฟ้าใสก็เลยท้าทายว่า งั้นก็เอาเลย แล้วยังซื้อถุงยางอนามัยให้ฝ่ายชายด้วย ฝ่ายชายเห็นเมียประชดแบบนี้ ก็เลยทำอย่างที่พูดจริงๆ คือไปมีสัมพันธ์สั่งลากับสาวคนดังกล่าว โดยที่ฟ้าใสถ่ายคลิปไว้ด้วย

 

วันพระเล่าเรื่องต่อไปว่า ตอนที่ทะเลาะเบาะแว้งกันเรื่องนอกใจ นอกกาย ก็มาทราบว่า กำลังจะมีลูกชายด้วยกัน เพราะฟ้าใสตั้งท้อง คุณวันพระจึงอยากจะกลับมาใช้ชีวิตดูแลภรรยา และลูก แต่ฟ้าใสบอกว่าไม่อยากจะอยู่กับวันพระอีกแล้ว อยากจะหย่า สาเหตุที่อยากจะหย่า เพราะไม่ชอบที่วันพระชอบมาบงการชีวิต สั่งนั่นสั่งนี่ มาบอกว่าตนไม่ยอมทำงานทำการ ก็เลยไม่มีเงินใช้ ติดค้างค่าบ้าน ตนยอมรับว่าตนไปคุยกับผู้ชายคนอื่นหลายคนจริง มีเซ็กซ์โฟนจริง แต่ไม่เคยเอามานอนในบ้านแบบที่เขาทำ ก็คิดดูเอาเองว่าใครร้ายกว่าใคร

 

สุดท้าย ทั้งคู่มาทำข้อตกลงกันว่า วันพระจะยอมหย่าให้ แต่ต้องยอมให้วันพระอยู่ในบ้านนี้ต่อไป จนกว่าลูกจะโต ขออยู่เลี้ยงลูกด้วยกันก่อนได้ไหม และหลังเซ็นใบหย่าที่อำเภอหนองบัวระเหว จ.ชัยภูมิ ก็ถูกไล่ออกจากบ้านทันทีในวันเดียวกัน

 

หย่าเที่ยง ตกเย็นโดนไล่เลย เขาพูดชัดเจนว่า ‘หย่าแล้วจะหน้าด้านอยู่ทำไม’ ตนต้องยืมเงินเพื่อน 1,500 บาทกลับอุดร มาหาเพื่อนที่เป็นคนตาบอดเหมือนกัน แล้วก็เคยคิดสั้นจะฆ่าตัวตายสองรอบ เพราะอยากอยู่กับลูกเมียเหมือนเดิม

 

ด้าน คุณฟ้าใส ซึ่งมาพร้อมคลิปหลักฐานจากโทรศัพท์มือถือ เปิดเผยว่า สาเหตุที่ขอหย่าเพราะคุณวันพระเคยพาผู้หญิงมานอนที่บ้านขณะเธอกลับมาคลอดลูก พร้อมเล่าว่า เธอจับได้คาตาว่าอดีตสามีมีเพศสัมพันธ์กับหญิงอื่น และตนเป็นคนถ่ายคลิปเอง เขาขอว่า ‘ขอพี่มีอะไรกับน้องเขาครั้งสุดท้ายได้ไหม’ ตนก็ใจอ่อน ถึงขั้นควักเงินซื้อถุงยางให้ หนูอยู่ตรงนั้น 

 

เมื่อถูกถามว่าหลังหย่าได้ไล่คุณวันพระออกจากบ้านจริงหรือไม่ คุณฟ้าใสตอบว่า ไม่ได้ไล่ แต่จะให้อยู่บ้านเดียวกันได้ยังไง คนหย่ากันแล้ว ต่างคนต่างอยู่ เขาไปมีคนอื่นก่อน หนูแค่คุยกับคนอื่น แต่ไม่เคยพาใครมานอนที่บ้าน

 

เรื่องไล่ออกจากบ้าน ทนายไพศาล ชี้ว่า การไล่ออกจากบ้านเป็นสิทธิ์ของฟ้าใส จะไล่ออกหรือจะให้อยู่มันเป็นสิทธิ์ของเขา เมื่อเจ้าบ้านเขาไม่ให้อยู่แล้วก็หมดสิทธิ์ ส่วนที่จะอ้างว่า กลัวว่ายอมออกจากบ้านแล้ว เขาจะกีดกันไม่ให้เจอลูก  เรื่องนี้ศาลเยาวชนและครอบครัวก็ต้องให้สิทธิของเด็กเป็นหลักอยู่แล้ว 

 

ต่อมาในรายการ มีการอ่านข้อความสลักหลังเอกสารการหย่า ซึ่งทั้งฟ้าใส และ วันพระ บอกว่านายทะเบียนไม่ได้อ่านให้ฟังเลยในตอนเซ็นหย่า ประเด็นนี้คือประเด็นที่วันพระมาร้องเรียนว่า ถูกหลอกให้หย่า ถูกกัดกันไม่ให้เจอลูก จะขอให้การหย่าเป็นโมฆะดีไหม แต่ฟ้าใสร้องไห้ปล่อยโฮในรายการ เพราะกลัวการหย่าจะเป็นโมฆะ ร้องไห้กลัวว่าจะถูกยกเลิกการหย่า เพราะไม่อยากกลับไปอยู่กับวันพระอีกแล้ว

 

วันพระบอกว่า ในเมื่อใจของฟ้าใสเปลี่ยนไปแล้ว ตนก็ไม่ตคิดจะบังคับให้เขากลับมาอะไรแบบนั้น เขามีคนใหม่ไปแล้ว ตนก็แค่ห่วงเรื่องลูก ไม่ให้เขากีดกัน ให้เขาไปหาลูกได้บ้างเท่านั้นก็พอ แต่ฟ้าใสบอกว่า เรื่องลูกไม่มีปัญหาเลย แต่ขอให้เขาหยุดราวี หยุดตามยุ่งอะไรกับตนได้ไหม

 

วันพระบอกว่า ตนก็ห่วงเขา ก็เลยไปตามดูบ้าง แต่ถ้าจะติดต่อลูก ก็ต้องติดต่อผ่านฟ้าใส ไม่งั้นจะทำยังไง ฟ้าใสบอกว่า ให้เขาโทรหาน้องชายกับแม่ของตนแทน เพราะตนจะไม่คุยไม่ยุ่งกับวันพระอีกแล้ว

 

วันพระบอกว่า มีหนี้นอกระบบด้วยกันอยู่ เพราะว่าไปกู้เงินนอกระบบ แบบดอกลอย กู้มาแค่ 4-5 หมื่น แต่สุดท้ายหนี้มันเป็นหลักล้าน ตอนแรกตกลงกันว่าจะช่วยกันใช้หนี้ แต่พอมามีเรื่องแบบนี้ เขาจะไปเฉยๆ ทิ้งหนี้ให้ตนคนเดียวได้ยังไง  ฟ้าใสก็บอกว่าตนก็ไม่รู้ว่าจะหาเงินมาจากไหนเหมือนกัน 

 

ทนายไพศาลบอกว่า ถ้าหนี้กู้มาตอนมีทะเบียนสมรส เป็นหนี้ร่วม ก็ต้องหามาใช้ร่วมกัน แต่ถ้ามีก่อนจดทะเบียนสมรส ก็นำสืบได้อีกว่า กู้มาใช้ร่วมกันไหม แต่สุดท้าย เป็นหนี้ก็ต้องชดใช้ แต่ชดใช้ตามจริง ถ้าเขาบอกว่าเป็นดอกลอย ก็ต้องไปสู้กันในศาล อย่างน้อยก็ต้องหาเงินมาชดใช้เขา ให้อยู่ในกรอบกฎหมาย แต่ถ้ามีการข่มขู่ จะทำร้ายร่างกายอะไรแบบนี้ มันก็เป็นคดีอาญา เรื่องนี้จะให้เฮียเปี๊ยกเป็นคนดูแล


แท็กที่เกี่ยวข้อง
#ผู้พิการทางสายตา#หย่า