เห็นในข่าว ไม่คิดว่าจะเจอกับตัว นายทุนฮุบที่ดินเกือบ 4 ไร่ อ้างครอบครองปรปักษ์ เจ้าของวัย 75 ปี หอบโฉนดร้องผู้ว่าฯ ขอความเป็นธรรม

ชาย อายุ 75 ปี และพร้อมด้วยภรรยา อายุ 61 ปี และชาวบ้านใน อ.สันป่าตอง จ.เชียงใหม่ อีกกว่า 20 คน ได้รวมตัวถือป้ายขอความเป็นธรรมที่หน้าอาคารอำนวยการ ศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ ขอให้นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เข้ามาช่วยเหลือ กรณีมีนายทุนใหญ่ในพื้นที่อ้างครอบครองปรปักษ์ ใน ต.ขุนมะขามหวาน อ.สันป่าตอง ซึ่งแจ้งความไปแล้วเกือบปี แต่ก็ไม่มีความคืบหน้า โดยเมื่อวันที่ 12 ก.ค. ที่ผ่านมา เคยร้องเรียนและประท้วงต่อนายทุนมารอบหนึ่งแล้ว แต่ไม่ได้รับความเป็นธรรม

เจ้าของที่ดิน กล่าวว่า ที่ดินดังกล่าวเป็นสวนลำไยของตน มีการทำบ่อปลาไว้ ที่ผ่านมาก็เข้าไปดูแลเก็บลำไยมาตลอด แต่ช่วงโควิดระบาด ลำไยราคาตกต่ำ จึงไม่ได้เข้าไปดูประมาณ 2-3 ปี พอหลังจากผ่านวิกฤติโควิด 19 กลับไปดูอีกครั้งก็พบว่าต้นลำไยถูกตัดโค่น ตอนแรกก็ยังไม่เอะใจ คิดว่าชาวบ้านมาตัดไปทำฟื้น แต่หลังจากนั้นอีกไม่นาน กลับไปดูอีกรอบพบว่าบ่อปลาถูกถมไป จึงได้เข้าแจ้งความไว้ที่ สภ.สันป่าตอง เรื่องก็อยู่ในกระบวนการตามกฎหมาย

แต่มารอบนี้หนักสุด พบว่านายทุนได้ล้อมรั้วที่ดินของตนไปเรียบร้อย ตนและพนักงานรังวัดที่ดินก็ยังไม่สามารถเข้าไปรังวัดที่ดินได้ เพราะถูกขู่ฟ้องข้อหาบุกรุก ทั้งที่เป็นที่ดินของตนและมีเอกสารสิทธิ์เป็นโฉนดครุฑแดง

เมื่อเดือน ส.ค. 2566 ตนได้เข้าแจ้งความที่ สภ.สันป่าตอง เพื่อขอให้ดำเนินคดีกับนายทุนและผู้เกี่ยวข้อง ซึ่งทางพนักงานสอบสวนได้รับเรื่องไว้แล้ว และอยู่ระหว่างดำเนินคดีกับผู้บริหาร จำนวน 4 ราย และนิติบุคคล รวมเป็น 5 ราย

ภายหลังจากดำเนินการแจ้งความ ปรากฏว่า เจ้าหน้าที่ที่ดินจะเข้าไปทำการรังวัด เพราะที่ของตนมีโฉนดถูกต้อง และมีการเสียภาษีที่ดินทุกปี ปรากฏว่าไม่สามารถเข้าไปดำเนินการรังวัดได้ ทำให้ตนสูญเสียรายได้ รวมทั้งต้นลำไย-ต้นมะม่วงที่ปลูกไว้ก็ถูกตัดหมด บ่อปลาที่มีอยู่ก็ถูกถม เข้าไปในที่ดินตัวเองไม่ได้เพราะถูกล้อมรั้วไว้หมด ตนและครอบครัวจึงกลัวว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม เพราะเป็นแค่ชาวบ้าน จึงได้มาร้องขอความเป็นธรรม

“ตนเป็นเพียงคนแก่คนหนึ่งที่ไม่รู้กฎหมาย แต่กลับมาถูกอ้างครอบครองปรปักษ์ จึงมองว่าเรื่องนี้ตนไม่ได้รับความเป็นธรรม อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาช่วยเหลือ นำที่ดินของตนกลับคืนมา ที่ผ่านมาเคยเห็นแต่ข่าวที่อื่น ไม่คิดว่าจะเจอกับตัวเอง”

ส่วนอีกคดีหนึ่งที่เกิดขึ้นในวันนี้คือ ผู้เสียหายจะแจ้งความฐานลักทรัพย์ เนื่องจากป้ายไวนิลที่ติดไว้ถูกรื้อถอนและนำออกไป ซึ่งในส่วนนี้เจ้าหน้าที่จะเข้าพื้นที่เพื่อตรวจสอบ รวบรวมพยานหลักฐาน ก่อนจะดำเนินการแจ้งข้อกล่าวหา และให้ทางคู่กรณีมารับทราบข้อกล่าวหา ดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป

ขณะที่ นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ ได้มอบหมายให้ตัวแทนศูนย์ดำรงธรรมรับเรื่องไว้ตรวจสอบ และจะประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบเรื่องนี้อย่างเร่งด่วน

ร.ต.อ.นันทวัฒน์ ปานเนาว์ พนักงานสอบสวน สภ.สันป่าตอง กล่าวว่า ภายหลังจากที่ทางผู้เสียหายที่เป็นเจ้าของที่ดินมาแจ้งความ ได้เรียกคู่กรณีเดินทางมาพบเพื่อทำการสอบสวนแล้ว 1 ครั้ง และในวันนี้เป็นครั้งที่ 2 ที่ได้เรียกมาเพื่อให้รับทราบข้อกล่าวหา ในฐานความผิด ‘บุกรุกและทำให้เสียทรัพย์’

วันนี้ หลังจากที่นายทุนและผู้เกี่ยวข้อง 4 ราย รวมถึงนิติบุคคลที่เป็นบริษัท 1 ราย รวม 5 ราย มารับทราบข้อกล่าวหาแล้ว ก็ได้ให้กลับไปรวบรวมข้อมูลพยานหลักฐานที่กล่าวอ้างมา หลังจากนั้นก็จะได้เรียกมาทำการสอบสวนอีกครั้ง