เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา ได้รับแจ้งเหตุมีคนพลัดตกจากขบวนรถไฟเสียชีวิต บริเวณรางรถไฟ กม.72/16 ก่อนถึงสถานีรถไฟอยุธยา หมู่ที่ 7 ต.หันตรา อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา หลังรับแจ้งจึงรีบไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมแพทย์โรงพยาบาลพระนครศรีอยุธยาและเจ้าหน้าที่สมาคมอยุธยารวมใจไปให้การสนับสนุน
ในที่เกิดเหตุพบร่างผู้เสียชีวิตเป็นหญิง อายุ 73 ปี ชาวบ้าน อ.ท่าเรือ จ.พระนครศรีอยุธยา สภาพนอนคว่ำหน้าอยู่ระหว่างร่องกลางรางรถไฟ ใกล้ศพพบถาดสเตนเลส ข้าวต้มมัดตกกระจัดกระจายอยู่ที่รางรถไฟ ใกล้กันพบกระเป๋าของผู้ตายภายในมีโทรศัพท์มือถือและเงินสดจำนวน 2,470 บาท เจ้าหน้าที่ได้เก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน
สอบถาม หญิง อายุ 60 ปี หลานสาวของผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า ตนกับผู้เสียชีวิตซึ่งเป็นน้าสาวของตนโดยสารรถไฟขบวนชานเมืองที่ 302 ลพบุรี ออกเดินทางจากสถานีหนองวิวัฒน์ เมื่อเวลาประมาณ 05.30 น. ตนและผู้เสียชีวิตมีอาชีพเก็บผักขายและทำข้าวต้มมัดเพื่อนำไปขายที่ตลาดเจ้าพรหมอยุธยาเป็นประจำทุกวัน ก่อนเกิดเหตุ ใกล้ถึงสถานีรถไฟ จึงเตรียมจะลงที่สถานีอยุธยา ขณะขบวนรถเหลือระยะประมาณ 1 กิโลเมตร ผู้เสียชีวิตได้ลากถุงผักมายืนรอบริเวณประตูทางลงด้านขวาของขบวนรถ ซึ่งเป็นช่วงทางโค้งและมีลมแรง จึงทำให้ถูกลมพัดร่วงตกลงจากรถไฟ ตนรีบหันกลับไปดูพบน้าสาวนอนแน่นิ่งอยู่กลางรางรถไฟ จึงรีบแจ้งเจ้าหน้าที่บนขบวนรถ ก่อนลงที่สถานีอยุธยาและเดินทางกลับมายังจุดเกิดเหตุ พบว่าน้าสาวเสียชีวิตแล้ว
หลานสาวของผู้เสียชีวิต ยังบอกอีกว่า น้าสาวเป็นคนขยัน มักไปเก็บผักนำผักมาขายที่ตลาดเจ้าพรหมทุก 2 วัน เมื่อคืนก็เพิ่งนั่งทำข้าวต้มมัดเพื่อเตรียมนำมาขาย ไม่คิดว่าจะเกิดเหตุสลดเช่นนี้
ทั้งนี้ ทางพนักงานสอบสวนได้บันทึกภาพจุดเกิดเหตุไว้เป็นหลักฐาน และเตรียมเชิญหลานสาวมาสอบปากคำเพิ่มเติม พร้อมมอบหมายให้เจ้าหน้าที่สมาคมอยุธยารวมใจ นำร่างผู้เสียชีวิตส่งชันสูตรที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ จ.ปทุมธานี ตามขั้นตอนของกฎหมาย