นายสหการณ์ เพ็ชรนรินทร์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบคุณสมบัติผู้ต้องราชทัณฑ์ที่เข้าข่ายได้ประโยชน์จากพระราชกฤษฎีกาพระราชทานอภัยโทษครั้งนี้ มีทั้งกลุ่มได้ลดวันต้องโทษ กลุ่มพักโทษ กลุ่มกักขังแทนค่าปรับและกลุ่มที่ได้พ้นโทษ ซึ่งจะมีการทยอยปล่อยตัวและดำเนินการลดโทษตามพระราชกฤษฎีกากำหนดภายใน 120 วัน
โดยผู้ต้องขังที่ได้รับประโยชน์ตามพระราชกฤษฎีกานี้ กำหนดไว้ต้องเป็นผู้ได้รับโทษแล้วไม่น้อยกว่า 1ใน 3 หรือจำคุกมาแล้วไม่น้อยกว่า 8 ปี ขึ้นกับจำนวนวันต้องโทษ ขั้นตอนหลังจากมีประกาศพระราชกิจจา กรมราชทัณฑ์ ต้องตั้งคณะกรรมการมาตรวจสอบรายชื่อคุณสมบัติให้ถูกต้อง โดยกลุ่มที่ได้ปล่อยตัวพ้นจากเรือนจำ เป็นกลุ่มที่กรมราชทัณฑ์จะต้องเสนอไปยังศาลเพื่อขอหมายปล่อยให้ก่อน
ซึ่งรวมถึงนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่เดิมจะครบกำหนดพ้นโทษในวันที่ 31 ส.ค. 67 แต่ผลจากพระราชกฤษฎีกาครั้งนี้ จะได้เปลี่ยนแปลงลดจำนวนวันต้องโทษ ซึ่งส่งผลให้พ้นโทษเร็วขึ้น ถือเป็นผู้มีคุณสมบัติได้รับประโยชน์จากพระราชกฤษฎีกาพระราชทานอภัยโทษครั้งนี้ แต่จะพ้นโทษต้องมีหมายปล่อยจากศาลก่อน
ทั้งนี้ ผู้ต้องขังคดีอื่นๆ ก่อนพ้นโทษจะต้องผ่านการอบรม และกรมราชทัณฑ์ได้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กระทรวงแรงงาน ร่วมติดตามการใช้ชีวิตหลังพ้นโทษเพื่อช่วยเหลือให้กลับตัวเริ่มต้นชีวิตได้ จึงขอให้สังคมอย่าได้กังวล
นอกจากนี้ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ กล่าวว่า มีผู้ต้องขังคดีสำคัญได้รับประโยชน์เช่นกัน ได้แก่ กลุ่มคดีจำนำข้าว นายอภิชาติ จันทร์สกุลพร หรือเสี่ยเปี๋ยง และพวกเข้าข่ายได้ลดวันต้องโทษ เหลือโทษน้อยลง นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อดีตอธิบดีดีเอสไอ ได้ลดวันต้องโทษ ส่วนนายบรรยิน ตั้งภากรณ์ นักโทษคดีฆาตกรรมเสี่ยชูวงษ์ ได้อภัยลดโทษจากประหารชีวิตเหลือโทษจำคุกตลอดชีวิต
ที่มา : ข่าวสด