แม่สุดช้ำ เสี่ยขับรถเฉี่ยวรถลูกชิ้นทอด ทำน้ำมันลวกลูก 2 ขวบทั้งตัว เจ็บสาหัส ไร้เยียวยา

แม่ร้องสายไหมต้องรอด ถูกเสี่ยรับซื้อของเก่าขับรถเฉี่ยวหม้อทอดลูกชิ้น ทำน้ำมันหก ลวกลูกชายวัย 2 ขวบทั้งตัว ได้แค่ 6,000 ก่อนบอกไปฟ้องเอา

หญิงอายุ 37 ปี แม่ของ ด.ช.วัย 2 ขวบ 5 เดือน ร้องสายไหมต้องรอด ถูกเสี่ยรับซื้อของเก่า ขับกระบะเฉี่ยวชนรถพ่วงขายลูกชิ้นทอด จนทำให้หม้อทอดลูกชิ้นที่มีน้ำมันร้อนคว่ำ ลวกใส่ลูกชายทั้งตัว ได้รับบาดเจ็บสาหัส ไร้การเยียวยา หวั่นไม่ได้รับความเป็นธรรม

โดยระบุว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2568 เวลาประมาณ 13.00 น. ขณะที่ตนเองขี่รถจักรยานยนต์พร้อมลูกชายวัย 2 ขวบ 5 เดือน เพื่อไปรอรับลูกสาวอีกคน ก็มีรถกระบะรับซื้อของเก่าจอดอยู่ใกล้กับรถพ่วงขายลูกชิ้นในระยะประชิดมาก ตนเองเกรงว่ารถกระบะคันดังกล่าวจะเกิดอันตราย ซึ่งเจ้าของรถได้ลงไปสั่งซื้อลูกชิ้นที่กำลังทอดอยู่

เมื่อซื้อเสร็จ เสี่ยคนดังกล่าวกลับขึ้นรถ และขับรถออกไป ทำให้โครงเหล็กของรถกระบะ เกี่ยวกับหลังคารถขายลูกชิ้น ส่งผลให้รถขายลูกชิ้นพลิกคว่ำ และทำให้หม้อน้ำมันทอดลูกชิ้นกระจาย ไปถูกลูกชายของตนเองที่นั่งอยู่บนสันเขื่อนที่อยู่ติดกัน

ตนเองได้พูดคุยกับเสี่ย โดยเสี่ยรับปากจะดูแลให้ดีที่สุด ก่อนที่ตนเองจะนำตัวลูกชายไปรักษาที่โรงพยาบาล แต่เนื่องจากบาดแผลฉกรรจ์ จึงถูกส่งตัวไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลศิริราช จนถึงปัจจุบัน ลูกชายก็ยังคงมีบาดแผล และร่องรอยการถูกน้ำมันลวก ตั้งแต่หัวไหล่ ลำตัวแผ่นหลัง ไปจนถึงเท้า ทั้ง 2 ข้าง

โดยที่ผ่านมา ยอมรับว่าคู่กรณีได้มีการเยียวยาเป็นเงินรวม 6,000 บาท กระทั่งในวันที่ 30 เมษายน และวันที่ 16 พฤษภาคม 2568 ได้มีการนัดเจรจากัน โดยทางครอบครัวได้เรียกร้องค่าเสียหายไปกับคู่กรณีเป็นเงิน 100,000 บาท จากนั้นต่อรองกันจนเหลือ 80,000 บาท แต่สุดท้ายเสี่ยคู่กรณีตกลงให้เพียง 20,000 บาท และขอชำระเป็นการผ่อน 10 เดือน แต่สุดท้ายก็ไม่ได้รับเงินตามที่ตกลงจนถึงปัจจุบัน

โดยอีกฝ่ายบอกว่าหากอยากได้เงินมากก็ให้ไปฟ้อง อีกทั้งยังมีการพูดทำร้ายจิตใจ ว่า “หากลูกต้องรักษาตลอดชีวิต เสี่ยต้องหาเงินให้ตลอดชีวิตเลยใช่ไหม” ซึ่งคำพูดนี้ทำให้ตนเองรู้สึกเสียใจ และมองว่าหากเป็นลูกเสี่ยบ้างจะทำอย่างไร ในฐานะคนเป็นแม่เห็นบาดแผลของลูก ก็รู้สึกสงสารลูก เพราะทุกวันนี้ลูกชายยังนอนผวา

ที่ผ่านมาตนเองไม่เคยเรียกร้อง และเสี่ยคู่กรณีก็ไม่เคยมาเยี่ยมลูกชาย ตนเองจึงอยากเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับลูก

ด้าน นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด กล่าวว่า อยากถามเสี่ยว่าหากเป็นลูกเสี่ยบ้าง จะทำแบบนี้ไหม ทั้งนี้ อยากฝากไปถึงเจ้าที่ตำรวจ สภ.ไทรน้อย ขอให้ดูแลกรณีดังกล่าวอย่างใกล้ชิด ตนเองมองว่าค่าเสียหายเพียง 100,000 บาท ที่ทางครอบครัวเรียกร้องนั้นน้อยเกินไป หลังจากนี้จะประสานไปยังกระทรวงยุติธรรมให้ช่วยเหลือดูแล

นอกจากนี้ ทางเพจสายไหมต้องรอด ยังมอบหมายให้ทนายของเพจ พิจารณาเรื่องข้อกฎหมาย ทั้งแพ่ง และอาญา เพื่อยื่นฟ้องต่อคู่กรณีอีกด้วย