ทำดีได้ดี... แม่บ้านเจอทองหนัก 2 บาท ส่งให้ ตร. ตามหาเจ้าของ ครบ 1 ปี ไม่มีใครมาแสดงตัว ตร.เรียกให้คนเก็บได้มารับคืนตามสิทธิ์ ดีใจน้ำตาอาบแก้ม

พ.ต.อ.สุริยะ สุดกังวาล ผกก.สภ.เมืองสระบุรี พ.ต.ท.ชูเชิด อนันต์สลุง รอง ผกก.หน.งานสอบสวนฯ ร่วมเป็นสักขีพยานในการส่งมอบทรัพย์สิน เป็นสร้อยข้อมือ/กำไลข้อมือทองคำ หนัก 2 บาท มูลค่าราว 80,000 กว่าบาท คืนให้กับ น.ส.ปนัดดา หลังเก็บได้บริเวณริมถนนพหลโยธิน ต.ปากเพรียว อ.เมือง จ.สระบุรี เมื่อวันที่ 15 ก.ค. 2566 ขณะขี่ จยย. ไปทำงาน ก่อนจะนำมาแจ้งความลงบันทึกประจำวันให้เจ้าหน้าที่ตำรวจประกาศตามหาเจ้าของ

เจ้าหน้าที่ได้ประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อต่างๆ ทั้งโชเชียล และช่องทางอื่นๆ เป็นเวลานาน จวบจนกระทั่งครบ 1 ปี ก็ยังไม่มีผู้ใดมาแสดงตัวเป็นเจ้าของ เจ้าหน้าที่จึงได้แจ้งให้ น.ส.ปนัดดา มารับทรัพย์นั้นที่ตกเป็นของผู้เก็บได้ไปโดยปริยาย เนื่องจากว่าเป็นทรัพย์ที่เจ้าของสละทรัพย์แล้ว

พ.ต.ท.ชูเชิด กล่าวว่า เมื่อวันที่ 17 ก.ค. 2566 น.ส.ปนัดนา อายุ 51 ปี แม่บ้านบริษัทแห่งหนึ่ง ได้เข้าพบพนักงานสอบสวน สภ.เมืองสระบุรี ว่าเมื่อวันที่ 15 ก.ค. 2566 ขณะขี่ จยย. กำลังจะไปทำงาน ได้พบกระเป๋าใส่สตางค์ใบเล็กแบบมีซิปรูดตกอยู่ เปิดดูพบว่ามีสร้อยและข้อมือทองอยู่ภายใน วันรุ่งขึ้น (16 ก.ค. 66) จึงนำไปให้ร้านทองในตัวเมืองสระบุรีตรวจเช็ก ทราบว่าเป็นทองคำแท้ จึงมีความประสงค์ให้เจ้าหน้าที่ลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน เพื่อประกาศหาเจ้าของให้มารับคืน

ต่อมา พนักงานสอบสวนก็ได้ลประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อต่างๆ ทั้งโซเชียลและอื่นๆ จนกระทั่งครบเวลา 1 ปี ก็ไม่มีผู้ใดมาติดต่อหรือแสดงตัวเป็นเจ้าของ พนักงานสอบสวนจึงติดต่อแจ้งให้ น.ส.ปนัดดา พลเมืองดีคนดังกล่าวมารับ ทรัพย์สินที่เก็บได้ทั้ง 2 รายการ ตามสิทธิของประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1323

หลัง พ.ต.ท.จิรเดช กันทะสาร พนักงานสอบสวน สภ.เมืองเจ้าของสำนวน ได้ทำบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน พร้อมมอบทองคำมูลค่าราว 80,000 กว่าบาท คืนให้ น.ส.ปนัดดา พลเมืองดี ก็ถึงกับร้องไห้ปาดน้ำตาที่อาบแก้มด้วยความดีใจ พร้อมกล่าวแสดงความขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจที่อำนวยความสะดวกให้มารับทองคำ ทั้งๆ ที่เจ้าตัวลืมไปแล้ว

พลเมืองดี เผยว่า ที่ตัดสินใจนำทองมามอบให้ตำรวจตามหาเจ้าของนั้น เพราะตนเข้าใจดีว่าคนเป็นเจ้าของทรัพย์สินคงจะเสียใจไม่น้อยที่ทำหาย อีกทั้งสิ่งของดังกล่าวไม่ใช่ของตน ตนจึงได้เข้าพบตำรวจให้ช่วยเหลือติดตามเจ้าของ แต่ก็ไม่มีใครมาแสดงตัวจนตำรวจติดต่อตนให้มารับ

หรืออาจเป็นเพราะความศักดิ์สิทธิ์ของ ‘หลวงพ่อกวย’ วัดโฆสิตาราม อ.สรรบุรี จ.ชัยนาท ที่ตนศรัทธา ดลบันดาลให้โชคตนก็เป็นได้ เพราะในวันที่ตนพบ ตนลืมสร้อยเชือกผ้าร่มที่มีรูปถ่ายหลวงพ่อกวยอัดกรอบพลาสติกไว้ที่บ้าน จึงขี่ จยย. กลับมา จนได้พบเห็นกระเป๋าที่ด้านในมีทองคำดังกล่าว