“รองเท้าแดง” สร้างเรื่อง รุ่นพี่ขอพูดบ้าง ปมรุมกระทืบรุ่นน้องกับพ่อ โต้รับน้องมันเป็นเรื่องสมัครใจ ไม่เคยบังคับใครมาเข้า

รายการโหนกระแสวันนี้ กลุ่มรุ่นพี่ของสถาบันแห่งหนึ่ง มาขอพูดในมุมของตัวเอง หลังก่อนหน้านี้ หนุ่มนักศึกษาสถาบันแห่งหนึ่ง พร้อมพ่อแม่ มาร้องกับ กัน จอมพลัง ว่าถูกรุ่นพี่กลุ่มนี้ บังคับรับน้องโหด อ้างว่าเป็นการฝึก แต่มีการทรมาน ทำร้ายร่างกายสารพัด เมื่อพ่อไปร้องเรียนกับทางสถาบัน กลับถูกกลุ่มรุ่นพี่ไล่กระทืบทั้งพ่อทั้งลูก

นายเพชร ตัวแทนรุ่นพี่ บอกว่า ที่ผ่านมาการรับน้องเป็นเรื่องที่พวกตนทำกันเอง มหาวิทยาลัยไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้อง ที่ต้องทำก็เพื่ออยากรักษาความสัมพันธ์ระหว่างรุ่นพี่รุ่นน้อง แต่ไม่เคยไปบังคับใคร เป็นความสมัครใจของทุกคน อย่างกลุ่มของเติ้ล ผู้เสียหายที่มาร้อง ก็เป็นฝ่ายขี่รถมาหาพวกตนเอง ถ้าเขาไม่เข้า แล้วกลับบ้าน พวกตนจะไปบังคับเขามาได้ยังไง มหาวิทยาลัยมีคนเป็นพันๆ จะไปบังคับทุกคนได้ยังไง

ขณะที่ฝ่ายรุ่นน้องบอกว่า ที่บอกว่าไม่ได้บังคับ แต่ถ้าใครไม่เข้าร่วม จะถูกกดดันต่างๆ นานา จะถูกสั่งทำโทษ กดดันจนอยู่ไม่ได้ หลายคนที่เข้ารับน้องแล้วทนไม่ไหว ขอออก สุดท้ายก็เรียนต่อที่นี่ไม่ได้ จนต้องย้ายไปเรียนที่อื่น

ขณะที่กลุ่มรุ่นพี่ยืนยันว่า สิ่งต่างๆที่กลุ่มผู้เสียหายอ้างว่า ถูกทำร้ายหลายๆ อย่าง เอาไฟเผา เอาไฟพ่นใส่อวัยวะเพศ ยอมรับพวกตนเคยโดนมาก่อน แต่พวกตนไม่ชอบ ก็เลยไม่เอามาทำกับรุ่นน้อง อะไรที่พวกตนเคยโดนมา ก็จะไม่ทำกับน้อง ยืนยันว่าเดี๋ยวนี้ไม่มีอะไรที่รุนแรงแบบนั้นแล้ว

อย่างการให้เอาหัวปักพื้น ในกลุ่มพวกตนเรียกว่า “สว่าน” จริงๆ ไม่ได้เป็นการลงโทษ เป็นการแกล้งกันเล่นในหมู่พวกตน อย่างพวกตนทำกัน มันก็เป็นการสั่งกันเอง ทำกันเล่นๆ เหมือนเวลาจะสั่งให้น้องทำ ก็ไม่เคยปล่อยให้น้องทำจริงๆ 

ฝ่ายเติ้ล ยืนยันว่า ครั้งที่แล้วที่มาออกรายการ นายเพชรอ้างว่าที่เข้ามาทำร้ายเติ้ลกับพ่อ เพราะเติ้ลไปโพสต์สตอรี่ยั่วยุว่า “ให้แม่มึงมารับศพได้เลย” เติ้ลยืนยันว่า ดูจากเวลาที่โพสต์สตอรี่ เป็นช่วงหลังจากที่โดนกลุ่มนายเพชรกระทืบแล้ว มีเวลาในกล้องยืนยันชัดเจน

นายเพชร ตอบว่า ที่ไปทำร้ายเติ้ลกับพ่อ เพราะโกรธที่พ่อของเติ้ลโทรมาด่า โทรมาข่มขู่ จะฆ่าจะแกง 

ส่วนในประเด็นที่บอกว่า รุ่นพี่ไม่พอใจที่เติ้ลไปนั่งเล่น นั่งคุยกับเพื่อนสมัยเด็ก ที่ตอนนี้เรียนกันต่างสถาบัน เป็นการเอาสถาบันของตัวเองไปขาย ขอยืนยันว่า เติ้ลไม่ได้ไปนั่งเล่นคุยสารทุกข์สุขดิบ แต่เป็นการเอาเรื่องในมหาวิทยาลัย เอาเพลง เอากลอนของสถาบันไปบอกให้เพื่อนฟัง เอาเรื่องข้อมูลตัวของพวกตนไปเล่าให้เพื่อนฟัง จนอาจจะเป็นอันตรายได้

ขณะที่เติ้ลและแม่ของเติ้ล บอกว่า รุ่นพี่พูดไม่หมดในเรื่องนี้ เพราะว่าตอนที่เขามาเค้นถามว่า เพื่อนที่ตนไปนั่งเล่นด้วย บ้านอยู่ไหน พอตนไม่ยอมบอก เขาก็ทำร้ายด้วยการดึงคิ้วเติ้ล มีการไปตามถึงบ้าน ซึ่งในเรื่องการตามถึงบ้าน พวกรุ่นพี่อ้างว่าเป็นห่วงว่าทำไมน้องไม่มาเรียน กลัวว่าน้องจะเป็นอะไรหรือเปล่า

รุ่นพี่ยังบอกอีกว่า ในวันที่เกิดเหตุ ที่กลุ่มของรุ่นพี่ไปทำร้ายเติ้ลกับพ่อ เพราะก่อนหน้านั้นเขาโทรมายั่วยุ โทรมาท้าทายว่าจะมาทำร้าย แล้ววันต่อมา ที่เขามา เขาจงใจแต่งตัวยั่วยุ เอาเสื้อออกนอกกางเกง ใส่กางเกงยีนส์ ใส่รองเท้าสีแดง ที่เขารู้อยู่แล้วว่าพวกตนไม่ชอบ ก็ยังใส่มา 

ประเด็นเรื่องรองเท้าสีแดง สีน้ำเงิน เป็นสีต้องห้าม ไม่ให้ใส่มาเรียน เพราะสีแดงในมุมของพวกตนเป็นสีประจำสถาบัน เหมือนเขาใส่รองเท้าสีแดงมายั่วยุเหมือนเอาไปไว้ที่เท้า หรือสีน้ำเงินก็ใส่ไม่ได้ เพราะเป็นสีประจำสถาบันของสถาบันฝั่งตรงข้าม ใส่มาก็เหมือนไปยั่วยุ อาจจะไปมีปัญหากันได้

สุดท้ายมีการพูดคุยกับกลุ่มรุ่นพี่ว่า เรื่องราวต่างๆ ถ้าต่างฝ่ายต่างไปขุดคุ้ยเรื่องเก่าๆ มันก็จะไม่จบ อยากให้พูดเรื่องที่เกิดขึ้น ในส่วนที่ผิดก็ควรจะยอมรับ และอยากให้รู้ว่า สิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้น มันเป็นเพราะรุ่นพี่ไปตั้งกฎเกณฑ์ ไปขีดเส้นอะไรที่มันทำให้คนอื่นๆ ใช้ชีวิตยาก มีปัญหา ทั้งที่มันไม่จำเป็นเลย

กลุ่มรุ่นพี่ ยืนยันว่า รับผิดในส่วนที่พวกตนทำผิด แต่กระแสข่าวที่ออกไป บางทีมันก็รุนแรงเกินไป หลายเรื่องพวกตนไม่ได้ทำ กลับถูกโจมตีเกินกว่าเหตุ

ขณะที่ทนายความที่ปรึกษาของกลุ่มรุ่นพี่ เล่าว่า มีสายโทรศัพท์อ้างว่าเป็นตำรวจจากโรงพักท้องที่ ที่เป็นเจ้าของคดี โทรมาหาเพชร แต่เป็นแฟนของเพชรรับสายแทน โทรมาว่า ถ้าจ่ายเงินให้ตำรวจก็จบ จะได้ไม่ต้องตามจับกันอีก 

ขณะที่ กัน จอมพลังบอกว่า เท่าที่สอบถามจาก ผกก.บางศรีเมือง ไม่มีนายตำรวจชื่อนี้ที่โรงพัก แต่เพื่อความเป็นธรรมของทุกคน ควรต้องไปแจ้งความไว้ เพราะอย่างเคสที่ผ่านๆ มา มันมีเคสแบบนี้เยอะ พวกที่ไปแอบอ้างเรียกรับเงินจากข่าวที่เป็นประเด็น เพราะฉะนั้น ขอให้ไปดำเนินการได้เลย ถ้าเป็นตำรวจจริงก็ต้องเอาให้หนัก ถ้าเป็นมิจฉาชีพก็จะได้จับกุมที่มาขู่กรรโชกแบบนี้