ผกก.สภ.เมืองนนทบุรี สอบเข้ม 'โจ-พยาน' จ่อเรียก 'เต๋า' สอบปากคำเพิ่มเติม

จากกรณีนายโจ อายุ 24 ปี ร้องว่าตนเองถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนภูธรจังหวัดนายหนึ่ง นำเงินไป 400,000 บาท เคราะห์ซ้ำกรรมซัด ยังถูกลูกชายของแม่เลี้ยงรวมหัวกับเพื่อนและตำรวจ ยัดยาเสพติด แถมยังเอาเงินในบัญชีที่มี 1,169,990 บาทไป ทำให้ตนเหลือติดบัญชีเพียง 15 บาท และยังนำสร้อยคอทองคำหนัก 2 บาท เลสข้อมือหนัก 2 บาท แหวนทองหนัก 1 บาท รวม 5 บาท มูลค่ากว่า 250,000 บาทของตนเองไปด้วย

ล่าสุด นายโจ พร้อมนายปีโป้ อายุ 19 ปี นายไม้ อายุ 18 ปี และเพื่อนของนายปีโป้อีก 3 คน เดินทางไป สภ.เมืองนนทบุรี เพื่อเข้าพบ ผกก.สภ.เมืองนนทบุรี โดยตำรวจได้ทำการแยกสอบปากคำ

นายโจ กล่าวว่า หลังจากที่ตนไปออกรายการโหนกระแส ตนก็ได้ให้สัมภาษณ์ตามข้อเท็จจริงว่า มีใครบ้างที่ร่วมกันรับเงินและทรัพย์สินของตนไป จากนั้นตนจึงได้รู้ความจริงจากนายปีโป้ และนายอิงว่า ตัวเองถูกวางแผน ก่อนเกิดเหตุตนกลับมาถึงบ้านและเห็นป้าอุ๋ยเซ็นเอกสาร โดยการปลอมลายเซ็นของตน โดยบอกว่าจะขายบ้าน ตนจึงปฏิเสธและเดินหนี ต่อมาพวกเขาเกิดความไม่พอใจ จึงนำยาเค 5 กรัม ไปยัดไว้ที่รถจักรยานยนต์ของตน ซึ่งตนมีพยานบุคคลที่รับรู้เหตุการณ์นี้

หลังจากนั้น มีเจ้าหน้าที่ตำรวจบุกเข้ามาที่บ้านและค้นรถจักรยานยนต์ของตน พบยาเค 5 กรัม และตำรวจได้ยื่นหมายค้นบ้านให้ตนดู ตนจึงแสดงตนว่าพกอาวุธปืนที่มีทะเบียนถูกต้อง และยาเคนั้นไม่ใช่ของตน จากนั้นตำรวจได้นำตัวตนไปที่กองสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดนนทบุรี นำของกลางมาวางและบอกว่าจะเอายาเคออกให้ เหลือเพียงอาวุธปืน แต่มีเงื่อนไขว่าต้องจ่ายเงิน 400,000 บาท ตนจึงโอนเงินให้นายเต๋า ซึ่งเป็นน้องชายของตน เพื่อนำไปใช้เป็นเงินประกันตัว

ต่อมา นายเต๋าได้อ้างว่า เงินจำนวน 400,000 บาท ไม่ได้ให้ตำรวจ แต่ยังอยู่กับตัวนายเต๋าเอง ซึ่งขัดแย้งกับคำพูดที่เคยบอกตนในตอนแรกเมื่อตนโทรไปทวง ตนในฐานะพี่ชายรู้สึกเสียใจมากที่ถูกกระทำเช่นนี้ และหลังจากออกจากรายการ ได้มีการนัดหมายให้มาพบกันที่ สภ.เมืองนนทบุรี แต่เมื่อมาถึงกลับไม่พบใครเลย ซึ่งวันนี้ตนจะมาแจ้งความเพิ่มเติม

ส่วนกรณีที่ตนเปิดเผยเรื่องตำรวจ ตนก็รู้สึกกลัว แต่ก็อยากให้มีการตรวจสอบตำรวจที่รับเงินไป สำหรับตนยินดีให้ตรวจสอบทุกอย่าง ตนไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด มีเพียงการดื่มน้ำกระท่อมเท่านั้น สิ่งที่ตนสูญเสียไป ทั้ง เงิน ทอง และนกกรงหัวจุก รวมมูลค่ากว่าล้านบาท ตนรู้สึกเสียใจมากที่ถูกกระทำเช่นนี้

ขณะเดียวกัน แม่ของนายปีโป้ได้เดินทางมา สภ.เมืองนนทบุรี เพื่อรอรับลูกชาย แต่ไม่สะดวกให้สัมภาษณ์หรือถ่ายภาพ โดยให้ข้อมูลกับทีมข่าวว่า ไม่สามารถติดต่อกับนายปีโป้ได้ตั้งแต่เมื่อวาน ครั้งสุดท้ายที่พูดคุยกันคือวันจันทร์ที่ผ่านมา วันนี้จึงเดินทางมาแจ้งความคนหาย

ด้านนายปีโป้ ให้ข้อมูลกับทีมข่าวว่า ตนไม่รู้เรื่องอะไร และถูกนายเต๋าชักชวนไปทำธุระหลายครั้ง รวมถึงพาตนไปเอาเงินของนายโจ ขณะที่ถูกขังอยู่ เป็นจำนวน 650,000 บาท

เบื้องต้น ผกก.สภ.เมืองนนทบุรี เปิดเผยว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบปากคำนายโจ และพยาน ซึ่งเป็นเพื่อนของนายปีโป้ โดยหลังจากนี้จะมีการเรียกนายเต๋า เข้ามาสอบปากคำเพิ่มเติม เพื่อรวบรวมพยานหลักฐานดำเนินการตามกฎหมายต่อไป