เกิดเหตุพระทำร้ายกันภายในวัดคลองน้ำเจ็ด ต.ทับเที่ยง อ.เมือง จ.ตรัง ส่งผลให้มีพระมรณภาพ 1 รูป และอีก 1 รูปได้รับบาดเจ็บสาหัส
เมื่อเวลาประมาณ 23.15 น. วันที่ 10 เม.ย. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองตรัง พร้อมแพทย์และหน่วยกู้ภัย เข้าตรวจสอบเหตุฆาตกรรมภายในกุฏิพระ พบศพพระรูปหนึ่ง เป็นระดับพระมหา อายุ 44 ปี นอนคว่ำหน้าจมกองเลือด สภาพนุ่งสบงเพียงผืนเดียว มือซ้ายยังกำมีดพร้า มีบาดแผลถูกแทงบริเวณท้องจนลำไส้ทะลัก รวม 5 แผล เสียชีวิตในห้องนอนชั้นล่างของกุฏิ
ส่วนพระผู้ก่อเหตุ อายุ 53 ปี ได้รับบาดเจ็บบริเวณหน้าผากและแขน ยืนรอขอความช่วยเหลืออยู่หน้ากุฏิ เจ้าหน้าที่จึงรีบนำส่งโรงพยาบาลตรัง
จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบกระจกหน้าต่างถูกทุบแตก มีเศษกระจกเกลื่อนพื้น พบมีดปลายแหลมเปื้อนเลือดยาวประมาณ 9 นิ้ว และโทรศัพท์มือถือตกอยู่ รวมถึงคราบเลือดหยดเป็นทาง
การสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า พระผู้เสียชีวิตได้ถือมีดพร้าและสวมไฟฉายคาดศีรษะ บุกเข้าไปในกุฏิคู่อริซึ่งปิดไฟจำวัดอยู่ โดยใช้มีดพร้าทุบกระจกหน้าต่าง ปีนเข้าไปในห้องและฟันเข้าที่ใบหน้าของพระอีกฝ่าย จากนั้นผู้บาดเจ็บตั้งสติได้ คว้ามีดปลายแหลมแทงสวนกลับหลายครั้ง จนผู้บุกรุกมรณภาพคาที่ ก่อนจะเดินออกมาขอความช่วยเหลือจากพระผู้ช่วยเจ้าอาวาส
กล้องวงจรปิดสามารถบันทึกเหตุการณ์ไว้ได้ ขณะที่พระผู้เสียชีวิตถือมีดพร้าและไม้กวาดเข้าทุบหน้าต่าง ปีนเข้าไปในกุฏิ ก่อนจะหายตัวไปประมาณ 3-4 นาที จากนั้นพระอีกฝ่ายจึงเดินโซซัดโซเซออกมาจากประตูในสภาพเลือดท่วมใบหน้า และขอความช่วยเหลือ
พระผู้ช่วยเจ้าอาวาสเปิดเผยว่า พระทั้งสองมีความขัดแย้งกันมานานราว 5-6 เดือน สาเหตุเริ่มจากปัญหาเล็กน้อยภายในวัด ก่อนบานปลายกลายเป็นความขัดแย้งเรื้อรัง เคยมีปากเสียงและเกือบมีการทำร้ายร่างกายกันหลายครั้ง แต่ผ่านมาได้เพราะมีการห้ามปราม
เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจรอให้พระผู้ได้รับบาดเจ็บอาการดีขึ้นก่อนนำตัวไปลาสิกขา และเตรียมแจ้งข้อหาฆ่าผู้อื่นเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย ส่วนร่างของผู้มรณภาพถูกส่งไปชันสูตรอย่างละเอียดที่โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ จ.สงขลา