รายการโหนกระแสวันนี้ ต่อเนื่องกันเป็น EP. ที่ 4 แล้ว สำหรับดรามาซื้อทอง “แม่ตั๊ก” หลังจากคุยกับบรรดาผู้เสียหายต่อเนื่องมาแล้ว 3 EP ก่อนหน้า ยอดนักเรียนในห้องโหนกระแสเต็มห้องมาตลอด 3 วัน โดยวันนี้ ได้ แพรรี่ ไพรวัลย์ และ ณวัฒน์ อิสรไกรศีล มาร่วมกันถกประเด็นดรามานี้
คุณณวัฒน์ ชี้ประเด็นการทำธุรกิจลักษณะนี้ว่า เป็นปัญหาเรื้อรังที่เกิดขึ้นในสังคม คนในสังคมถึงเวลาที่ต้องมาตระหนักว่า พ่อค้าแม่ค้าบางประเทศทำคอนเทนต์สร้างชื่อเสียงอะไรต่างๆ แบบนี้
ส่วนในประเด็นไลฟ์ที่มีการแกะกล่องพัสดุตีกลับ ว่ามีซองแดงใส่เงินใส่ไปด้วย แต่ลูกค้าไม่อยู่รับของ เอามาแกะ เจอเงินในซองหลายร้อยบาท บางกล่องมีไอโฟน ในเรื่องนี้ ได้ตัวแทนจากทางฝั่ง Flash Express มาให้ข้อมูลว่า เรื่องกล่องพัสดุตีกลับ Label ติดหน้ากล่อง ต้องพิมพ์ออกมาใหม่ สลับชื่อผู้รับ ผู้ส่ง แล้วรายละเอียดต้องเยอะ และคำว่า “ตีกลับ” ก็จะไม่ใหญ่ขนาดนั้น
ถามว่าสิ่งที่ปรากฏในไลฟ์ เป็นของจริงหรือไม่ ทาง Flash Express บอกได้เพียงว่า ขนส่งที่มีมาตรฐานทั่วไป จะไม่ทำกันแบบนี้
ขณะที่แพรรี่ ให้ความเห็นว่า คนบางคน พ่อค้าแม่ค้าหลายคน ชอบทำแบบนี้ คือเอาเงินที่ได้มาแบบเทาๆ ไปทำบุญ ไปช่วยเหลือคน ถ้าเป็นธุรกิจผิดกฎหมายเขาก็เรียกว่าฟอกเงิน แต่ลักษณะนี้ก็คือการฟอกบุญ คือฟอกตัวเองให้ดูดี คนก็แห่ไปชื่นชมชื่นชอบ สิ่งเหล่านี้ คนในประเทศเราต้องตระหนักได้แล้ว
ถ้าเขาเป็นคนมีใจบุญสุนทานจริง เขาต้องใจบุญ มีน้ำใจ ช่วยเหลือเกื้อกูลกับลูกค้าเขาเองก่อน ไม่ใช่ไปสร้างบ้านให้คนอื่น แม้แต่ลูกค้ายังถูกเอารัดเอาเปรียบ เขาจะใจบุญสุนทานจริงไหมแบบนี้
ก็ไม่อยากให้เคสลักษณะนี้เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำอีก เพราะเรื่องแบบนี้ในสถานการณ์ปกติ เราออกมาเตือนกันไม่ได้ ถ้าออกมาเตือนก็คงจะโดนคนด่า ว่าเขาทำความดี ไปด่าเขาทำไม แต่ถึงเวลาก็มาเกิดปัญหาแบบนี้
แต่สิ่งต่างๆ เหล่านี้ ตนไม่อยากจะชี้ว่าเป็นใคร แต่ไปสร้างบ้านให้คนที่ไม่รู้จักกัน ก็ต้องถามว่า เขาจะทำฟรีๆเหรอ เขาจะทำโดยไม่หวังผลได้อย่างไร เหมือนที่พี่หนุ่ม กรรชัย บอกว่าของฟรีไม่มีในโลก ก็ต้องถามว่า สิ่งที่เขาให้เรามา เขาจะเอาอะไรจากเราไปแลกเปลี่ยน นี่คือสิ่งที่คนที่อยู่ดีๆ ก็โผล่มาชื่อเสียง ดังขึ้นมาอย่างไม่รู้ตัวเจอกันมานักต่อนัก ถึงเวลาเขาจะมาถอนทุนจากเรา เอาเราไปขายของ ไปทำอะไรต่างๆ ก็น้ำท่วมปากแล้ว เพราะรับเงินรับทองเขามาเยอะ
คุณณวัฒน์ยังพูดถึงประเด็นเดือดในโซเชียล กรณีของ “พู่กัน-แมงปอ” ที่มีบางส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ หลังแม่ตั๊กเชิญน้องทั้ง 2 คน ไปไลฟ์ขายทอง แหวนทอง 388 บาท ซึ่ง ณวัฒน์บอกว่า ผู้เสียหายเคสนี้เขาไม่ค่อยอยากจะเอาเรื่อง เพราะความเสียหายมันเล็กน้อย อยากให้ผู้เสียหายถ้าเห็นใจเด็กทั้งสองคน ก
ด้านแมงปอ โฟนอินเข้ามาในรายการ บอกว่า ตัดสินใจว่าจะไม่รับบ้านที่แม่ตั๊กบอกว่าจะมาสร้างให้ เพราะมองว่าเฉพาะเรื่องของตัวแม่ตั๊กเองก็น่าจะลำบากอยู่แล้ว และมองว่าตนกับพู่กันก็มีชีวิตที่ดีขึ้นแล้ว ก็เลยคิดว่าค่อยๆ เก็บ ค่อยๆ สร้างกันเองดีกว่า ไม่รับบ้านจากเขาดีกว่า
ส่วนเรื่องวันที่ไลฟ์ขายทอง เขาบอกว่าเป็นโปรโมชันของทางร้าน จะมีโพยแปะไว้ ให้เราอ่าน ว่าราคาเดิมเท่าไหร่ วันนี้ขายกี่บาท โดยงานนี้แรกเริ่ม “ซ้อฝัน” เป็นคนติดต่อแม่ตั๊กไปว่า ขอให้พู่กันกับแมงปอไปไลฟ์ขายของในไลฟ์แม่ตั๊กได้ไหม ซึ่งตอนที่ไปก็ไม่รู้ว่าจะต้องขายสินค้าอะไรบ้าง ไปรู้หน้างาน ซึ่งก็มีทองที่เป็นประเด็นด้วย
ขณะที่ เพชรพันปี ซึ่งถูกระบุว่าเป็นพี่สาวคนสนิทของแม่ตั๊ก โฟนอินเข้ามาชี้แจง ในประเด็นที่มีคนบอกว่า เพชรพันปี แนะนำให้แม่ตั๊กโทรหาคนนั้นคนนี้เพื่อขอเคลียร์ เพชรพันปีบอกว่า เขาอาจจะไปขอความช่วยเหลือจากหลายคน ตนไม่ได้เป็นญาติ ไม่ได้เป็นพี่น้อง และไม่ได้รู้จักกับเขามาก่อนเลย
เพชรพันปีถึงกับสะอื้นในสายว่า ชีวิตตนกำลังค่อยๆ ดีขึ้น ทำไมยังมาโดนโยงไปเป็นพี่สาวของเขา ทั้งที่ตนไม่รู้จักเขามาก่อน เขาอยากได้ทนายตนก็แค่แนะนำไปว่าให้โทรหาใครก็แค่นั้น
ณวัฒน์ ยังเปิดอีกประเด็นว่า อีกหนึ่งหน่วยงานที่ควรต้องเข้ามาตรวจสอบเคสแม่ตั๊ก ก็คือ สรรพากร เพราะจากรายงานการเงินของเขา 5 ปี กำไร 14 ล้าน แล้วเขาเอาเงินที่ไหนมาซื้อรถหรูเยอะแยะมากมายขนาดนั้น แล้วนาฬิหรูแต่ละเรือน เรือนเป็นล้านๆ เขาเอาเงินมาจากไหน ตัวเขาเองก็ไม่ได้ร่ำรวยสมบัติมาจากไหน เพราะฉะนั้นมันต้องไปตรวจสอบว่ารายงานการเงินมันผิดปกติไหม
แล้วการที่เขาทำธุรกิจออกหน้าอะไรต่างๆ แต่กลับไม่มีชื่ออยู่ในบริษัทเลย มันไม่แปลกหรือ มันมีความไม่ชอบมาพากลอะไรหรือไม่ ก็ขอสะกิดไปถึงสรรพากรว่ามันน่าจะไปตรวจสอบเคสนี้ด้วย