จากกรณีที่เพจสายไหมต้องรอด เข้าให้ความช่วยเหลือหญิงอายุ 72 ปี หลังถูกแก๊งทวงหนี้นอกระบบ 4 คน บุกมาทำร้ายร่างกาย โชคดีที่หลานมาช่วยไว้ได้ทัน เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 20 ก.ค.ที่ผ่านมา ช่วงเวลาประมาณ 22.30 น. หน้าคอนโดแห่งหนึ่งย่านโชคชัย 4
ความคืบหน้าล่าสุด พลตำรวจตรี ธนันท์ธร รัตนสิทธิภาคย์ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 4 เปิดเผยว่า หลังจากที่ผู้เสียหายไปร้องขอความช่วยเหลือกับเพจสายไหมต้องรอด ฝ่ายสืบสวนและฝ่ายสอบสวนได้รวบรวมพยานหลักฐานและข้อมูล จนสามารถพิสูจน์ทราบอัตลักษณ์บุคคลทั้ง 4 คน ได้แก่ ชายอายุ 27 ปี / ชายอายุ 32 ปี / ชายอายุ 27 ปี / และชายอายุ 25 ปี จากนั้นพนักงานสอบสวนได้ประสาน และกดดันไปทางญาติของผู้ต้องหา จนทำให้ผู้ต้องหาเดินทางเข้ามามอบตัวเมื่อช่วงกลางดึกที่ผ่านมา
จากการสอบปากคำ ผู้ต้องหาทั้ง 4 คนอ้างว่า เพิ่งจะทำร้ายร่างกายหญิงคนดังกล่าวเป็นครั้งแรก เนื่องจากรู้สึกไม่พอใจที่จ่ายหนี้ไม่ตรงตามเวลาที่นัดหมาย เบื้องต้นพนักงานสอบสวนแจ้ง 6 ข้อกล่าวหากับ ชายอายุ 27 ปี และอายุ 32 ปี คือ ร่วมกันประกอบธุรกิจให้บริการสินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้การกำกับโดยไม่ได้รับอนุญาต, / ร่วมกันให้บุคคลอื่นกู้ยืมเงินอันมีลักษณะเป็นการเรียกดอกเบี้ยเกินอัตราที่กฎหมายกำหนดไว้, / ร่วมกันกระทำการทวงถามหนี้ ในลักษณะข่มขู่ การใช้ความรุนแรง หรือการกระทำอื่นใดที่ทำให้เกิดความเสียหายแก่ร่างกาย ชื่อเสียง หรือทรัพย์สินของลูกหนี้หรือผู้อื่น, / ร่วมกันทวงถามหนี้กับบุคคลอื่นซึ่งมิใช่ลูกหนี้, / ร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายหรือจิตใจ, / ร่วมกันทำให้ผู้อื่นเกิดความกลัว หรือความตกใจ โดยการขู่เข็ญ
โดยชายอายุ 27 ปี ผู้ต้องหาที่ 1 ให้การรับสารภาพตามข้อกล่าวหา แต่ให้การปฏิเสธในข้อหาร่วมกันทวงถามหนี้กับบุคคลอื่นซึ่งไม่ใช่ลูกหนี้ โดยอ้างว่าหญิงคนดังกล่าวเป็นลูกหนี้ของตน ส่วนชายอายุ 32 ปี ผู้ต้องหาที่ 2 ให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา
สำหรับ ชายอายุ 32 ปี ผู้ต้องหาคนที่ 2 เคยถูกดำเนินคดีในลักษณะการทวงหนี้โดยใช้ความรุนแรง เมื่อปี 2561 ในพื้นที่ สน.ฉลองกรุง ปี 2566 ในพื้นที่ สน.จรเข้น้อย และ สน.ทุ่งสองห้อง
ส่วนชายอายุ 27 ปี ผู้ต้องหาที่ 3 และชายอายุ 25 ปี ผู้ต้องหาที่ 4 ถูกแจ้ง 4 ข้อกล่าวหา คือ ร่วมกันกระทำการทวงถามหนี้ ในลักษณะข่มขู่ การใช้ความรุนแรง หรือการกระทำอื่นใดที่ทำให้เกิดความเสียหายแก่ร่างกาย ชื่อเสียง หรือทรัพย์สินของลูกหนี้หรือผู้อื่น, / ร่วมกันทวงถามหนี้กับบุคคลอื่นซึ่งมิใช่ลูกหนี้, / ร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายหรือจิตใจ, / ร่วมกันทำให้ผู้อื่นเกิดความกลัว หรือความตกใจ โดยการขู่เข็ญ โดยผู้ต้องหาที่ 3 และที่ 4 ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา
นอกจากนี้ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 4 ยังบอกอีกว่า จากข้อมูลที่มีอยู่ขณะนี้ทราบตัวแล้วว่าเจ้าของเครือข่ายปล่อยเงินกู้นอกระบบที่แท้จริงเป็นใคร โดยบุคคลดังกล่าว เป็นคนที่มีหมายจับของ สน.มีนบุรี ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดี
ส่วนเรื่องที่สังคมมองว่าตำรวจทำงานล่าช้า ยืนยันว่าเป็นการเข้าใจผิด เพราะหลังจากที่หญิงคนดังกล่าวมาแจ้งความเมื่อวันที่ 20 ก.ค.ที่ผ่านมา พนักงานสอบสวนได้ให้หญิงคนดังกล่าวไปทำการตรวจร่างกายเพื่อนำความเห็นจากแพทย์มาประกอบสำนวนในคดี และได้นัดหมายมาสอบปากคำในวันที่ 26 ก.ค.67 แต่ทางผู้เสียหายอาจจะยังไม่ทราบ จึงมองว่าคดีไม่มีความคืบหน้าจนต้องไปร้องขอความช่วยเหลือกับเพจสายไหมต้องรอด
ต่อมาในเวลาไล่เลียกัน พนักงานสอบสวนได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 4 คน ไปขออำนาจศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ฝากขังในผัดแรก โดยท้ายคำร้องพนักงานสอบสวนได้คัดค้านการประกันตัว เนื่องจากผู้ต้องหามีพฤติกรรมใช้ความรุนแรง และเกรงว่าผู้ต้องหาจะมายุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน หากได้รับการประกันตัวชั่วคราว