จากกรณีหญิงรายหนึ่งร้องไห้ขอความเป็นธรรม หลังลูกชายขี่รถจักรยานยนต์หนีด่านตรวจเมาแล้วขับ เจอรถกระบะสายตรวจ สภ.เมืองลำปาง ถอยชนจนรถเสียหลักร่างกระแทกเสาไฟฟ้าเสียชีวิต ส่วนเพื่อนที่นั่งซ้อนบาดเจ็บ เหตุเกิดเมื่อเวลา 03.00 น. วันที่ 22 ก.พ.68 แม่ของผู้เสียชีวิตมองว่าเจ้าหน้าที่ทำเกินกว่าเหตุหรือไม่
ล่าสุดผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปที่บ้านหลังหนึ่งใน ต.เสด็จ อ.เมือง จ.ลำปาง ซึ่งใช้เป็นสถานที่จัดงานบำเพ็ญกุศลศพของชาย อายุ 22 ปี ผู้เสียชีวิตจากกรณีดังกล่าว โดยครอบครัวยังอยู่ในอาการโศกเศร้ามีญาติและครอบครัวมาร่วมงานบำเพ็ญกุศลศพจำนวนหนึ่ง
แม่ของผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า ตนมีลูกชายคนเดียว ตอนนี้เรียนอยู่ระดับชั้น ปวส.ปีสุดท้ายอีกไม่กี่เดือนก็จะจบแล้ว ลูกชายเป็นคนดีที่ผ่านมาคอยดูแลยายที่ป่วยติดเตียงมาตลอด ก่อนเกิดเหตุลูกชายบอกว่าจะไปบ้านเพื่อน มาทราบอีกทีก็รู้ว่าลูกชายเสียชีวิตแล้ว ตอนแรกคิดว่าคงเป็นอุบัติเหตุธรรมดาแต่พอเห็นภาพจากกล้องวงจรปิดแล้วถึงกับอึ้ง เพราะไม่คิดว่าตำรวจจะทำแบบนี้ ตอนแรกขับรถมาขวางก็ไม่ว่าอะไร แต่ยังถอยรถมาชนลูกชายจนทำให้รถเขาเสียหลักร่างกระแทกเสาไฟฟ้าจนเสียชีวิต ซึ่งความจริงตำรวจต้องมียุทธวิธีที่ดีกว่านี้ ตอนนี้ตนจะเดินหน้าเอาเรื่องให้ถึงที่สุด เพราะลูกชายตนไม่ได้ไปฆ่าใครตายไม่น่ามาทำกันแบบนี้และไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นกับคนอื่นอีก
ต่อมาผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปพบกับชาย อายุ22ปี ผู้บาดเจ็บจากกรณีดังกล่าว โดยเจ้าตัวได้รับบาดเจ็บตามร่างกายแพทย์ให้กลับมารักษาตัวที่บ้าน พร้อมเปิดเผยว่าวันเกิดเหตุตนไปเที่ยวบ้านเพื่อนที่อยู่ในเมืองขากลับมาก็เห็นตำรวจมีการตั้งด่าน ด้วยการที่ไปดื่มกับเพื่อนมาและด้วยความตกใจจึงวกรถกลับระหว่างนั้นยังมีคนเอากรวยตั้งถนนโยนมาใส่แต่ไม่ถูกใครและเมื่อถึงจุดเกิดเหตุตำรวจก็ขับรถกระบะมาขวาง เพื่อนตนที่เสียชีวิตซึ่งเป็นคนขี่รถจักรยานยนต์จึงหลบออกข้างๆแต่เจ้าหน้าที่ก็ถอยรถมาอีกจนเกิดการชนดังกล่าว ตอนแรกเหมือนจอดับพอรู้สึกตัวมาก็เห็นเพื่อนนอนจมกองเลือดตำรวจคุยกันว่าไม่หายใจแล้ว ก่อนที่กู้ภัยจะนำตัวส่งโรงพยาบาลตอนนี้รู้สึกสงสารเพื่อนและมองว่าเจ้าหน้าที่ทำรุนแรงเกินไปหรือไม่และอยากให้เขามารับผิดชอบ