จากกรณี 'คาร่า' หญิงที่อ้างว่าถูกแฟนหนุ่มทำร้ายร่างกายขณะตั้งท้อง และฝ่ายชายไม่ยอมรับผิดชอบลูกที่คลอดออกมา โดยในรายการโหนกระแส คาร่ายืนยันว่ามีลูก และได้คลอดลูกที่ รพ.แห่งหนึ่งใน กทม.แต่ไม่ขอบอกชื่อ ก่อนที่ฝ่ายชายจะโฟนอินเข้ามาในรายการ ประกาศว่าพร้อมที่จะรับผิดชอบและเซ็นรับรองบุตร หากคาร่ายอมไปตรวจ DNA เพื่อพิสูจน์ความจริง แต่ปรากฏว่า คาร่าไม่ตรวจ อ้างว่าเลยเวลานั้นมาแล้ว เพราะที่ผ่านมาตนตามเรื่องนี้มาตลอด แต่ฝ่ายชายก็ไม่รับผิด ไม่อยากให้ฝ่ายชายมารับผิดชอบเพียงเพราะสังคมกดดัน
ในเรื่องดังกล่าวนั้นมีประเด็นเพิ่มเติมอีกว่า ฝ่ายชายได้มาเปิดเผยว่า ช่วงที่คบกับคาร่าตั้งแต่ต้น คาร่าไม่ตรงปก เพราะภาพที่ใช้ตอนคุยกันและในโซเชียล แตกต่างกับตัวจริงโดยสิ้นเชิง ซึ่งทางคาร่าบอกว่าเป็นภาพที่มีการแต่งภาพผ่านแอปพลิเคชัน ล่าสุด หญิง อายุ 31 ปี ชาว จ.มหาสารคาม นำหลักฐานที่ถูกคาร่านำภาพไปตัดต่อและนำไปหลอกลวงฝ่ายชายในข่าวที่ปรากฏ เดินทางเข้าแจ้งความกับตำรวจ สภ.เมืองขอนแก่น เพื่อลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน
ยืนยันว่าถูกนำภาพไปตัดต่อ ซึ่งเป็นภาพที่ถ่ายเอาไว้เมื่อ 6 ปีก่อน โดยหากมีการนำภาพไปทำให้เกิดความเสียหาย หรือนำไปหลอกลวงผู้อื่น ไม่ว่าด้วยการกระทำใดๆ ผู้แจ้งไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง และต้องการให้คนที่นำภาพไปตัดต่อ ออกมาขอโทษและชี้แจงผ่านสื่อ หากไม่ทำก็จะดำเนินคดีตามกฎหมาย
ทั้งนี้ เจ้าตัวโชว์หลักฐานภาพจริงที่ถ่ายในร้านอาหารเมื่อ 6 ปีก่อน โดยสวมชุดเดรสสีทอง เปรียบเทียบกับภาพที่ถูกตัดต่อเอาใบหน้าคนอื่นมาใส่และใช้วิธีกลับภาพเป็นอีกฝั่ง แต่ท่าทาง การวางมือ และทรงผม รวมทั้งกำไลที่แขนยังอยู่เหมือนเดิม เปลี่ยนเฉพาะใบหน้า พร้อมกับให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวว่า เรื่องดังกล่าวนั้นมีพี่ที่รู้จักกันและได้ดูรายการโหนกระแสโทรมาบอกว่า มีการนำภาพของตนเอง ซึ่งเบลอหน้าเอาไว้
ขณะนั้นตนเองขับรถอยู่ จึงให้พี่ช่วยดูรายละเอียดว่ามีความเสียหายอะไรเกิดขึ้นบ้าง และส่งข้อความมาบอกรายละเอียดต่างๆ ว่าภาพถูกนำไปใช้แบบไหน ซึ่งระบุว่า นำภาพไปใช้ในติ๊กต๊อกแล้วคุยกับผู้ชายคนหนึ่งเพื่อหลอกลวง ทำให้ตนเองเกิดความเสียหาย และเพื่อนทุกคนที่เห็นก็จำได้หมด ซึ่งภาพดังกล่าวนั้นเป็นภาพเมื่อ 6 ปีที่แล้ว ถ่ายลงเฟซบุ๊กส่วนตัว เมื่อวันที่ 16 พ.ย.2562 ตอนนั้นตนไปเที่ยวกับเพื่อนที่ร้านแห่งหนึ่ง
ส่วนคนที่นำภาพตนเองไปตัดต่อนั้นยังไม่ยอมรับผ่านสื่อว่าตัดต่อภาพขึ้นมา แต่ไปยอมรับนอกรอบว่าทำภาพขึ้นมาจริง จึงมาแจ้งความลงบันทึกประจำวันเอาไว้เป็นหลักฐาน เพื่อให้คนนำภาพไปตัดต่อนั้นออกมาชี้แจงและขอโทษผ่านสื่ออย่างเป็นทางการ หากไม่ทำก็จะดำเนินคดีตามกฎหมาย
เรื่องดังกล่าวนั้นยอมรับว่าตอนนี้รู้สึกไม่ดี เพราะขนาดตนเองออกมาเปิดเผยว่าตนเองเป็นตัวจริงในภาพ แล้วถูกนำภาพไปตัดต่อ แต่หญิงรายดังกล่าวยังมีการมาโพสต์ด้วยว่า อย่ามาหาแสงกับฉัน ฉันเหนื่อยแล้ว ซึ่งตนเองไม่ได้หาแสดงแต่คุณมาสร้างความเดือดร้อนให้ ทั้งที่ตนเองใช้ชีวิตอย่างปกติสุข ฝากถึงคุณคาร่าว่า ขอให้โพสต์ชี้แจงข้อเท็จจริงเรื่องภาพ และหากไปออกรายการไหนก็ขอให้ยอมรับว่าใช้รูปตนเองไปตัดต่อเพื่อหลอกลวงคนอื่น