จากกรณี พระโพธิญาณมุนี (หลวงพ่อเมือง พลวฑฺโฒ) เจ้าอาวาสวัดมัชฌิมาวาส บ้านดงเมือง ตำบลลำพาน อำเภอเมือง จังหวัดกาฬสินธุ์ วัย 79 ปี 59 พรรษา ที่จะครบวันเจริญอายุวัฒนมงคล 80 ปี ในวันที่ 29 ธันวาคมที่จะถึงนี้ ได้กราบลาสิกขาไปแล้ว หลังถูก “สีกาบี” ร้องเรียนว่ากระทำความผิดวินัยบัญญัติในเรื่องการล่วงละเมิดพระธรรมวินัยว่าต้อง อาบัติปฐมปาราชิก (เสพเมถุนธรรม) และนิคหกรรมตามที่จะลงแก่พระภิกษุเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ตั้งแต่ปี 2559 ก่อนเดินทางออกจากวัดไปแล้วตั้งแต่วันที่ 10 กันยายนที่ผ่านมา
ทำเอาชาวกาฬสินธุ์ โดยเฉพาะลูกศิษย์และโยมอุปัฏฐากต่างเสียดายพระนักพัฒนาที่สร้างความเจริญให้ชาวบ้าน โดยเฉพาะการสร้างองค์พระมหาเจดีย์วัดป่ามัชฌิมาวาสที่คาดว่าเป็นพระมหาเจดีย์ที่สูงที่สุดในประเทศไทยให้ลูกหลานได้กราบไหว้
ต่อมา เมื่อลูกศิษย์ทราบเรื่องการลาสิกขาของหลวงพ่อเมือง ก็ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุว่า “ขอบพระคุณท่านที่ทำภารกิจอันยิ่งใหญ่ทิ้งไว้บนแผ่นดินกาฬสินธุ์ ถึงกายหยาบท่านจะถูกตัดสิน แต่กายทิพย์เจิดจรัส บนแผ่นดินพระศรีรยเมตไตร พระพุทธศาสนาตกน้ำไม่ไหลตกไฟไม่ไหม้”
โดยโพสต์ดังกล่าวมีคณะลูกศิษย์มาแสดงความคิดเห็นจำนวนมาก อาทิ “เศร้าสุดๆ” , “ท่านทำคุณประโยชน์แห่งพุทธศาสนาและชาวกาฬสินธุ์มากมาย บุญย่อมเป็นบุญ” , “น้อยคนจะอายุยืนได้ สุขภาพแข็งแรงได้ขนาดนี้ เพราะอยู่ในธรรมะวินัย” , “ดูข่าวท่านสึกแล้วใจหายเกิดอะไรขึ้น”
ล่าสุด ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปยังวัดป่ามัชฌิมาวาส บ้านดงเมือง ตำบลลำพาน อำเภอเมือง จังหวัดกาฬสินธุ์ พบว่ามีพุทธศาสนิกชนเดินทางเข้ามากราบสักการะขอพรในองค์พระมหาเจดีย์วัดป่ามัชฌิมวาสอย่างบางตา โดยเก้าอี้ที่ใช้เป็นอาสนะของหลวงพ่อเมืองยังตั้งอยู่จุดเดิม และยังมีอัฐบริขาร ประกอบด้วย ผ้าจีวร บาตร ฯลฯ ตั้งไว้ในชั้น 1 ขององค์พระมหาเจดีย์ฯ
นักศึกษาหญิงคนหนึ่ง บอกว่า เป็นครั้งแรกที่ได้มาที่นี่ ได้ขึ้นไปชั้นสูงสุดขององค์พระมหาเจดีย์ ได้ชมวิวด้านบนบรรยากาศดีมาก มองเห็นรอบๆ 360 องศา ถ้ามีโอกาสจะกลับมาอีก ยังไม่ทราบข่าวว่าหลวงพ่อท่านลาสิกขาแล้ว เสียดายที่มาแล้วไม่ได้กราบหลวงพ่อ
ด้าน โยมอุปัฏฐากที่วัดแห่งนี้ บอกว่า เป็นโยมอุปัฏฐากที่วัดแห่งนี้ประมาณ 10 กว่าปีแล้ว แม้ว่าหลวงพ่อเมืองจะลาสิกขาแล้ว ตนก็จะเข้ามาดูแลวัดอยู่เหมือนเดิม เพราะเลื่อมใสท่านอยู่แล้ว เคยทำอย่างไรก็ทำแบบนั้น การตักบาตรทุกวันอาทิตย์ก็ยังมีเหมือนเดิม ศรัทธาท่าน เพราะเป็นเหมือนลูกเหมือนหลานของท่าน ส่วนตัวก็เป็นห่วงท่านอยู่เช่นกัน
ขณะที่ ชาวบ้านดงเมือง บอกว่า ศรัทธาท่านมาก ไม่อยากให้ท่านสึก ตนห้อยเหรียญของหลวงพ่อเมืองซึ่งเป็นวัตถุมงคลที่ห้อยคอติดตัวไว้ตลอดตั้งแต่ตนมาบวชชีครั้งแรกที่นี่ แล้วเพิ่งสึกออกไป แต่กลับมาทำขันบูชาหลวงพ่อตลอด คิดว่าเหตุการณ์ของสีกาบีน่าจะเป็นการกลั่นแกล้งท่าน เพราะตลอดเวลาที่มาอยู่ที่วัด ก็นำหลักธรรมคำสอนจากหลวงพ่อไปปฏิบัติ ชีวิตก็เจริญขึ้น ครอบครัวดีขึ้น แม้ว่าหลวงพ่อจะไม่อยู่วัดนี้แล้ว แต่ทุกคนยังศรัทธาอยู่เหมือนเดิม ก็อยากเชิญชวนญาติโยมมาทำบุญเหมือนเดิม เพราะเจดีย์แห่งนี้เป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของชาวพุทธ อยากให้มาทำบุญกัน
ด้านหญิง อายุ 82 ปี ชาวบ้านดงเมือง บอกว่า เข้าไปวัดทุกวัน โดยเฉพาะวันเสาร์-อาทิตย์ จะเข้าไปทำความสะอาดในมหาเจดีย์ตลอด พอทราบข่าวว่าหลวงพ่อลาสิกขาสึกก็รู้สึกเสียใจ คิดว่าข่าวหลวงพ่อไม่ใช่ความจริง เพราะหลวงพ่อเป็นคนมีบุญ มีวาสนาสูง สร้างอะไรก็ไม่เคยไปขอใคร กับชาวบ้านท่านก็ไม่เคยมาขอ แล้วแต่ศรัทธา คิดว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นการมาใส่ร้ายท่าน จากคนไม่หวังดี เพราะมีคนอยากได้มาอยู่เป็นเจ้าอาวาสแทนท่าน เพราะเห็นศาสนสถานต่าง ๆ ที่หลวงพ่อสร้างขึ้น ก็เลยสร้างเรื่องขึ้นมาให้ท่านได้รับความเสียหาย ถึงหลวงพ่อไม่อยู่คนก็ไปทำบุญเข้าวัดเช่นเดิม