มาร่วมตีแผ่กระแสที่แรงที่สุดในสังคม กับรายการโหนกระแสthaich3ช่อง 3 กด 33
ติดต่อเราfacebooktiktokxyoutube
honekrsaaehonekrsaae
thaich3ช่อง 3 กด 33honekrsaae
ข่าวกำลังโหน
โหนทุกข่าว
โหนบันเทิง
โหนไปมู
โหนร้องทุกข์
วีดีโอ
search
ปิด
honekrsaae
honekrsaae
มาร่วมตีแผ่กระแสที่แรงที่สุดในสังคม กับรายการโหนกระแส
thaich3ช่อง 3 กด 33
หน้าหลัก
ข่าวกำลังโหน
โหนทุกข่าว
โหนบันเทิง
โหนไปมู
โหนร้องทุกข์
วีดีโอ
Live
ติดต่อเราfacebooktiktokxyoutube

โต้กันเดือดในโซเชียล! เมียแฉเชฟอินฟลูฯ ชื่อดัง ทำร้ายร่างกาย-นอกใจ เชฟโต้ตนต่างหากที่โดนทำร้าย โดนยักยอกเงินบริษัท


ข่าวโซเชียล
25 มิถุนายน 25683,095
โต้กันเดือดในโซเชียล! เมียแฉเชฟอินฟลูฯ ชื่อดัง ทำร้ายร่างกาย-นอกใจ เชฟโต้ตนต่างหากที่โดนทำร้าย โดนยักยอกเงินบริษัท

เพจเฟซบุ๊ก ท่านเปา มีการแชร์เรื่องราวของเชฟอินฟลูฯ ชื่อดัง ที่ร่วมกับภรรยาเปิดร้านเนื้อวัวดรายเอจ เกรดพรีเมียม ก่อนจะมีปัญหาทะเลาะกันรุนแรง โดยระบุข้อความไว้ว่า ขอเล่านิทานให้ฟังก่อนนอนแล้วกัน

 

กาลครั้งหนึ่ง มีเชฟอินฟลูฯ คนหนึ่ง ผู้ติดตามร่วมครึ่งล้าน โด่งดังจากคลิปเนื้อดรายเอจ และเปิดร้านเนื้อกับคนรู้ใจ ชีวิตเหมือนจะไปได้สวย ทั้งงาน ทั้งครอบครัว จนวันหนึ่ง… ความสัมพันธ์เริ่มสั่นคลอน เรื่องบางเรื่องที่ไม่ควรเกิดกลับเกิดขึ้น และมันไม่ได้กระทบแค่จิตใจ แต่ยังสะเทือนไปถึงสุขภาพลูกตัวเอง หลายอย่างที่เคยสร้างมาด้วยกัน กลายเป็นฝ่ายหนึ่งต้องคืนทุกอย่างพร้อมคำพูดที่เจ็บยิ่งกว่ามีดบาด ว่า “เธอเป็นภาระ” แม้กระทั่งลูกน้องที่เคยร่วมฝ่าฟันก็โดนไล่ ถูกลดค่า เหมือนไม่เคยมีตัวตน วันนี้เธอเจ็บ… แต่ไม่ยอมจม เธอบอกว่าจะเดินต่อ เพราะยังมีลูกให้ก้าวไปด้วยกัน

 

ต่อมาไม่นาน เพจท่านเปาก็โพสต์อีกว่า ดรามาเชฟเนื้อดรายเอจเดือด! หลังจากฝ่ายหญิงอ้างว่า เชฟพัวพันคนอื่นจนกระทบครอบครัว ทางฝั่งเชฟออกมาตอบกลับว่า ความสัมพันธ์ของทั้งคู่มีปัญหาที่สะสมมานาน ดูทรงแล้วงานนี้คงต้องฟังทั้งสองฝั่งก่อน และอาจจะไปจบที่โหนกระแส

 

ประเด็นนี้ได้รับความสนใจจากโซเชียลภายในชั่วข้ามคืน หลายเพจต่างนำเรื่องราวแชร์ออกไปเป็นวงกว้าง ชาวเน็ตต่างก็พร้อมใส่ใจกับเรื่องนี้ เข้าไปแสดงความคิดเห็นจำนวนมาก ซึ่งในเฟซบูีกส่วนตัวของสองผัวเมียคู่นี้ก็มีการโพสต์ตอบโต้กันไปมาไม่ต่ำกว่า 10 โพสต์

 

ฝ่ายหญิงพยายามโพสต์บอกว่า จุดเริ่มต้นของปัญหาเกิดมาจากครอบครัวของฝ่ายชาย ที่เข้ามามีบทบาทและแทรกแซงในธุรกิจร้านเนื้อ จนทำให้ผัวเมียทะเลาะกัน และฝ่ายหญิงยังไปจับได้อีกว่าฝ่ายชายแอบมีคนอื่น โดยมีหลักฐานจากกล้องวงจรปิดของคอนโดหญิงชู้

 

นอกจากนี้ยังมีการทำร้ายร่างกายเธอด้วยเวลาที่มีปากเสียงทะเลาะกัน ซึ่งปัญหาสะสมมานานเป็นปี จนกระทั่งล่าสุดรุนแรงถึงขั้นฝ่ายชายไล่เธอออกจากบ้าน เธอจึงต้องหอบลูก 2 คน อายุ 4 ขวบ และ 5 ขวบ และในท้องอีก 4 เดือน ออกจากบ้านที่ซื้อหามาด้วยกัน และหนีไปอยู่พัทยา จ.ชลบุรี ส่วนกิจการร้านเนื้อฝ่ายชายก็จะฮุบไปทั้งหมด ทำให้ตัวเธอเองแทบไม่เหลืออะไรเลย ทั้งที่ก่อร่างสร้างตัวมาด้วยกัน

 

ฝ่ายหญิงยังบอกด้วยว่า สมัยที่คบกันใหม่ๆ และเริ่มต้นทำธุรกิจร้านเนื้อ เธอเองเป็นคนยืนไลฟ์ขายเสื้อผ้ามือสองที่ฝ่ายชายชอบดูถูกว่าเป็นขยะ แต่เธอก็นำรายได้ตรงนี้มาลงทุนให้ฝ่ายชายเปิดร้านเนื้อ แล้วเธอยังลงคลิปวันที่เธอต้องหนีไปอยู่พัทยา ซึ่งจะมีของใช้บางส่วนเกี่ยวกับการไลฟ์ขายเสื้อผ้ามือสองของเธอ เธอได้ให้ลูกน้องเอากลับไปเก็บไว้ที่บ้าน เพื่อต้องการให้ฝ่ายชายรู้ว่าจุดเริ่มต้นการทำธุรกิจร้านเนื้อด้วยกัน ก็มาจากการขายเสื้อผ้ามือสองของเธอที่ฝ่ายชายดูถูกมาตลอด

 

ขณะที่ฝ่ายชายเองก็โพสต์โต้ผ่านทางเฟซบุ๊กส่วนตัวไม่ต่ำกว่า 10 โพสต์เช่นกัน โดยโพสต์แรก ระบุว่า ไม่ล็อกโปรไฟล์แล้วนะครับ เรื่องเท็จที่คุณได้กล่าวอ้าง ความบัดซบที่มึงทำมาทั้งหมด ความพยายามที่จะทำลายชีวิตกัน ใครอยากเสือกปักหมุดใต้โพสต์นี้ ผมจะเอาหลักฐานทั้งหมดโพสต์ใต้คอมเมนต์ ส่วนใครไม่รู้ความจริงเหี้xอะไรแล้วรีบตัดสินก็เตรียมตัวนะฮะ

 

หลังจากนั้น ฝ่ายชายก็มีการโพสต์อีกรัวๆ พร้อมพยายามชี้แจงว่า ปัญหาระหว่างตนกับภรรยาสะสมมานานหลายปี จนเกิดจุดแตกหักเมื่อวันที่ 27 ม.ค. ที่ผ่านมา ฝ่ายชายบอกว่าฝ่ายหญิงมีการด่าบุพการีของตน และในวันดังกล่าวก็มีการบุกเข้ามาที่บ้าน ทำร้ายพ่อตนจนตนต้องไปแจ้งความไว้ที่ สน.ราษฎร์บูรณะ และฝ่ายหญิงเคยบุกเข้ามาที่ห้องนอนตอนที่ตนกำลังหลับอยู่ และเข้ามาทำร้ายร่างกายตนด้วย

 

เฟซบุ๊กของฝ่ายชายยังโพสต์ชี้แจงจุดเริ่มต้นความบาดหมางว่า ตนเองไปจับได้ว่าภรรยาแอบยักยอกถอนเงินของบริษัทออกไป และมีการเปลี่ยนหุ้นจากเดิมที่เคยแบ่งกันไว้ตนเอง 70%, พ่อตน 1% และเมีย 29% แต่มีการจับได้ว่าเมียแอบเปลี่ยนหุ้นของตนเองเหลือ 20% และเมีย 80% โดยที่ตนไม่เคยยินยอมหรือรับรู้มาก่อน จึงทำให้เริ่มต้นมีปัญหาทะเลาะกันในเรื่องของธุรกิจร้านเนื้อ จนลามไปถึงเรื่องส่วนตัว

 

ซึ่งฝ่ายชายมีการฟ้องร้องกันอยู่หลายคดี ไม่ว่าจะเป็นคดียักยอกทรัพย์, ยักยอกหุ้นบริษัท, ทำร้ายบุพการี และฟ้องหย่า และที่ผ่านมาฝ่ายหญิงมีการข่มขู่จะทำลายชีวิตรวมไปถึงธุรกิจด้วย ฝ่ายชายบอกว่าตนพยายามเงียบมาตลอด เพราะไม่ต้องการให้ลูกต้องมาเจอกับอะไรแบบนี้ แต่ตอนนี้ก็ทนไม่ไหวเหมือนกัน รายการไหนอยากให้ไปชี้แจงตนยินดี

 

ส่วนคลิปเหตุการณ์ที่มีปากเสียงกับลูกน้องของฝ่ายหญิง ที่มีการนำของกลับมาเก็บไว้ที่บ้านฝ่ายชาย ฝ่ายชายได้โพสต์อธิบายถึงเหตุการณ์ดังกล่าวว่า

 

1. ผมทำงานอยู่ในบ้าน (ถ่ายคอนเทนต์) มีรถกระบะขับเข้ามาจะเอาของมาลงที่บ้าน ซึ่งจริงๆ ตอนนั้นเราได้แยกกันแล้ว และเขาได้ส่งลูกน้องเขาคนที่เป็น LGBTQ+ มาคุกคามผมเป็นประจำ

 

2. ผมเดินออกไปและได้ทำการล็อกประตูบ้าน เขาคุยกันว่าถ่ายคลิปเลยๆ เหมือนเป็นการจงใจสร้างหลักฐาน แต่ตัวผมได้เดินเข้าบ้านไปเพราะไม่ต้องการปะทะ

 

3. เขายังไม่หยุดการกระทำ โยนของเข้ามาในบ้าน ซึ่งเป็นจุดที่ผมจอดรถอยู่ และผมห่วงทรัพย์สินของผม จึงได้ทำการโยนของกลับออกไป เจตนาก็ดูกันเองครับว่าใครยั่วยุ ใครต้องการสร้างหลักฐาน

 

เรียกได้ว่าทั้งสองฝ่ายโพสต์ตอบโต้กันอย่างดุเดือด ต่างขุดหลักฐานแฉกันไปมาแ ละล่าสุดฝ่ายชายโพสต์อีกว่า พร้อมเจอกันที่โหนกระแส

 

ล่าสุด ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปพบกับฝ่ายหญิง อายุ 30 ปี ซึ่งตอนนี้ต้องไปเช่าอาคารพาณิชย์ที่พัทยา จ.ชลบุรี เพื่อเป็นสตูดิโอในการไลฟ์ขายเสื้อผ้าของใช้ต่างๆ ซึ่งเธอบอกว่า คบหากับสามีตั้งแต่ปี 2559 สมัยเรียนมหาวิทยาลัย หลังเรียนจบก็ร่วมกันลงทุนทำธุรกิจเนื้อดรายเอจ เริ่มต้น 100,000 บาท โดยเป็นเงินจากการที่เธอไลฟ์ขายเสื้อผ้า ซึ่งธุรกิจร้านเนื้อเริ่มโตและไปได้ดี เธอจึงช่วยวางระบบหลังบ้านการจัดการทุกอย่างให้ ในขณะเดียวกันก็ยังไลฟ์สดขายเสื้อผ้าขายออนไลน์ไปด้วย

 

ซึ่งเธอและสามีก็ใช้ชีวิตเป็นครอบครัวปกติ มีลูกด้วยกัน 2 คน กระทั่งประมาณปี 2565 ญาติพี่น้องและครอบครัวของสามีเริ่มเข้ามามีส่วนร่วมในธุรกิจร้านเนื้อของเธอและสามี โดยน้องสาวของสามีเรียนจบยังไม่มีงานทำ จึงมาขอเรียนรู้ศึกษาเรื่องเนื้อดรายเอจจากเธอ จนสุดท้ายก็อปสูตรและไปเปิดร้านในลักษณะเดียวกัน ทำให้เธอรู้สึกไม่พอใจและเข้าไปพูดคุยกับพ่อของสามี ให้ช่วยตักเตือนลูกสาวว่าทำแบบนี้ไม่ถูกต้อง แต่ปรากฏว่าพ่อของสามีเข้าข้างลูกสาวตัวเองและตำหนิเธอ ทำให้มีปากเสียงทะเลาะกัน และเริ่มมีรอยร้าวบาดหมางกันตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ส่วนสามีก็เข้าข้างพ่อและน้องของตัวเอง เธอก็พยายามอดทนเพื่อรักษาความสัมพันธ์และรักษาความเป็นครอบครัว แต่กลายเป็นว่ารักเธอพูดหรือเธอทำอะไรก็ผิดไปทุกอย่าง

 

หนำซ้ำยังจับได้ว่าสามีแอบไปมีผู้หญิงอื่น เธอทำเรื่องนี้ไปฟ้องพ่อของสามี แต่เขากลับมองว่าเป็นเรื่องปกติ พ่อสามีบอกว่าครอบครัวอื่นเขาทะเลาะกันด้วยเรื่องหนักกว่านี้อีก เธอก็ทนจนถึงวันแตกหัก ช่วงเดือน ม.ค. 2568 เธอมีปากเสียงทะเลาะกับพ่อของสามี พ่อของสามีและลูกชายคนโตเข้ามาล็อกคอและทำร้ายร่างกายเธอ หลังจากวันนั้น พ่อของสามีก็ยังเข้าข้างลูกชายของตัวเอง บอกว่าเธอเป็นคนไปหาเรื่องก่อน ทำให้มีปากเสียงโต้เถียงกันบ่อยครั้ง จนมีวันหนึ่งเธอเดินเข้าไปด่าทอต่อว่าพ่อของสามี แล้วพ่อของสามียกมือทำท่าจะทำร้ายร่างกายเธออีก เธอก็ยกมือทำท่าจะสู้ สุดท้ายต่างฝ่ายต่างลงมือต่อสู้กัน ซึ่งเธอก็ได้รับบาดเจ็บด้วย ทำให้เกิดเป็นจุดแตกหักตั้งแต่วันนั้น

 

เธอเก็บเสื้อผ้าย้ายออกจากบ้านไปอยู่ที่ร้าน และคิดว่าจะเลิกกับสามี แต่สามีก็มาตามง้อ ซึ่งเธอเห็นแก่ลูก 2 คน และความเป็นครอบครัว จึงยอมกลับไปดีด้วย และเธอก็คิดที่จะเริ่มต้นการทำธุรกิจขายของออนไลน์ ขายเสื้อผ้ามือสองของเธออย่างจริงจังอีกครั้ง กลายเป็นว่าสามีก็ไม่พอใจและดูถูกเธอสารพัดว่าเอาขยะมาขาย และยังมีการตามคุกคามเธอด้วย จนเธอมาพบว่าตั้งท้องลูกอีกคน ซึ่งตอนนี้อายุครรภ์ 4 เดือน ซึ่งสามีก็ไม่สนใจ แถมยังบังคับให้เธอไปขอโทษครอบครัวของเขาด้วย โดยเอาลูกเป็นตัวประกันว่า ถ้าไม่ขอโทษก็จะไม่ดูแลรับผิดชอบ ทำให้รอบนี้เธอไม่ทนแล้ว จึงเก็บข้าวของทั้งหมดหนีมาอยู่ที่พัทยา และนำเรื่องโพสต์ลงโซเชียลเพื่อให้ชาวเน็ตช่วยตัดสิน

 

เธอมองว่าตั้งแต่คบกับสามีมาเกือบ 10 ปี เธอยอมและดูแลสามีอย่างดีทุกอย่าง ซื่อสัตย์ ไม่เคยนอกใจ และพยายามทำมาหากินสร้างครอบครัว แต่กลายเป็นว่าสามีใช้ชีวิตเที่ยวเล่น สำมะเลเทเมา และซื้อบริการผู้หญิงจนทำให้ติดโรคทางเพศสัมพันธ์ และลามมาติดเธอด้วย เธอต้องการขอความเป็นธรรม คิดว่าถ้าได้ไปพูดคุยในรายการโหนกระแสเรื่องนี้จะมีทางออก ซึ่งเธอพร้อมที่จะหย่าและดูแลลูกเพียงลำพัง ขอแค่สามีอย่าตามมาคุกคามหรือทำร้ายกันอีกเลย

 


แท็กที่เกี่ยวข้อง
#ปัญหาผัวเมีย#ทำร้ายร่างกาย#เชฟชื่อดัง#ปัญหาครอบครัว#ร้านเนื้อดรายเอจ